DSI เร่งลงพื้นที่ล่าขุมทรัพย์ตามยุทธการทุบหัวรถจักร ในพื้นที่ กรุงเทพฯ นครปฐม และเพชรบุรี

เผยแพร่: 21 ก.ค. 2564 17:57 น. ปรับรุง: 31 ส.ค. 2564 18:48 น. เปิดอ่าน 1905 ครั้ง   EN
 

DSI เร่งลงพื้นที่ล่าขุมทรัพย์ตามยุทธการทุบหัวรถจักร ในพื้นที่ กรุงเทพฯ นครปฐม และเพชรบุรี

ด้วย พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ พันตำรวจโท สมบูรณ์ สาระสิทธิ์รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะรองอธิบดีที่กำกับดูแล ได้สั่งการให้นายระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา และทีมพนักงานสอบสวน ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา เร่งดำเนินการกับทรัพย์สินของผู้กระทำความผิด เพื่อนำเงินชดใช้คืนสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ และสมาชิกสหกรณ์ฯ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพื่อเยียวยาให้กับผู้เสียหาย ทั้งนี้ ทีมพนักงานสอบสวน นำโดย นายธวัชชัย รัตนปรีชาชัย รองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา จึงได้เร่งลงพื้นที่เพื่อทำการสอบสวนขยายผลติดตามทรัพย์สินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม และอำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรีของกลุ่มอดีตผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟกับพวก ระหว่างวันที่ 19 - 22 กรกฎาคม 2564 กรณีทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ และได้นำเงินที่ได้จากการทุจริต ทำการโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น ปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มาแหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อันเป็นความผิดฐานฟอกเงิน เพื่อทำการตรวจยึด/อายัดทรัพย์สิน ต่อไป

กรณีดังกล่าว คณะพนักงานสอบสวนได้สืบทราบว่ามีทรัพย์สินบางรายการได้มีการเปลี่ยนแปลง โอนไป ซึ่งทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิด จึงจำเป็นต้องเร่งลงพื้นตรวจสอบทรัพย์สิน เพื่อระงับ ยับยั้ง ติดตามทรัพย์สินคืนให้ผู้เสียหายโดยเร็ว อันเป็นการสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่มุ่งเน้นในการที่จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เร่งดำเนินการกับทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดให้รวดเร็ว ต่อเนื่อง และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งยังสามารถนำเงินชดใช้คืนสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟในฐานะผู้เสียหาย ตลอดจนสมาชิกสหกรณ์ฯ จำนวนกว่า 6,000 ราย และสหกรณ์พันธมิตรอีก15 แห่ง โดยจะดำเนินการเชิงบูรณาการร่วมกับ สำนักงาน ปปง. ควบคู่กันไป เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย และสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน ส่งผลสัมฤทธิ์ในทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 อย่างเด็ดขาด ต่อไป

 

************************************************

 

ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2564

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ