DSI ส่งสำนวนสั่งฟ้อง 3 ผู้ต้องหาบริษัท อุบลอินเตอร์ จำกัด ฐานฉ้อโกงประชาชนเสียหายกว่า 22 ล้านบาท

เผยแพร่: 8 ส.ค. 2568 16:19 น. ปรับปรุง: 8 ส.ค. 2568 16:19 น. เปิดอ่าน 1174 ครั้ง  
 

DSI ส่งสำนวนสั่งฟ้อง 3 ผู้ต้องหาบริษัท อุบลอินเตอร์ จำกัด 
ฐานฉ้อโกงประชาชนเสียหายกว่า 22 ล้านบาท

 

                    เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 พันตำรวจโท อานนท์  อุนทริจันทร์ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอกหญิง อัศนีย์  รอดน้อย ผู้อำนวยการส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 3  และคณะพนักงานสอบสวนฯ นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 51/2564 กรณี บริษัท อุบลอินเตอร์ จำกัด ได้มีการโฆษณาชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในรูปแบบการประกอบธุรกิจขายตรง และเสนอผลตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่าย ผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ เฟซบุ๊ก และการเผยแพร่ผ่านทางเว็ปไซต์ เพื่อโน้มน้าวชักชวนให้ลงทุน โดยกล่าวอ้างว่าบริษัท อุบลอินเตอร์ จำกัด ประกอบธุรกิจกลุ่มธุรกิจโรงแรม ที่พัก สัมมนาและจัดเลี้ยง กลุ่มธุรกิจบันเทิง โรงภาพยนตร์ สวนน้ำ และผับ กลุ่มธุรกิจเครือข่ายขายตรง กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว กลุ่มธุรกิจเฟรนไซน์ กลุ่มธุรกิจด้านการเงิน กลุ่มธุรกิจพลังงาน กลุ่มธุรกิจการบินพลเรือน บริษัทฯ อยู่ระหว่างขยายกิจการ โดยเสนอผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาสมาชิก หรือเครือข่ายในอัตราสูงแบ่งจ่ายผลตอบแทนทุกสัปดาห์ ต่อมาได้หยุดจ่ายเงินผลตอบแทน เป็นเหตุให้ผู้ลงทุนได้รับความเสียหาย โดยในคดีนี้ ทำให้ประชาชนหรือผู้ลงทุนที่หลงเชื่อร่วมลงทุนและได้รับความเสียหายที่มาให้การต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษจำนวน 75 ราย มูลค่าจํานวนเงินที่กู้ยืมจำนวน 32,445,660.00 บาท มูลค่าความเสียหายจำนวน  22,906,652.00 บาท 

                     คดีดังกล่าว พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้วพบผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำความผิด จำนวน 3 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” “ร่วมกัน ฉ้อโกงประชาชน” และ “ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมผิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติว่า ด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีความเห็น สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่เป็นนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา รวมจำนวน 2 ราย และสั่งไม่ฟ้อง 1 รายเนื่องจากถึงแก่ความตายและได้นำส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการ เรียบร้อยแล้ว

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ