DSI สนธิกำลัง กรมโยธาธิการฯ สมอ. นิติวิทยาศาสตร์ นำหมายค้น 7 แพลนท์ปูน หาพยานหลักฐานตึก สตง. ถล่ม
เผยแพร่: 16 พ.ค. 2568 16:53 น. ปรับปรุง: 16 พ.ค. 2568 16:56 น. เปิดอ่าน 72 ครั้งวันนี้ (วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม 2568) เวลา 08.00 น. พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้เป็นประธานการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภคและโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท อมร หงษ์ศรีทอง ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และคณะพนักงานสอบสวนได้ร่วมหารือวางแนวทางการปฏิบัติการตรวจค้นเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานในคดีอาคารสำนักงาน สตง.ถล่มฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมโยธาธิการและผังเมือง และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็น 7 ชุด โดยปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายเป็นจุดส่งคอนกรีตผสมเสร็จ (แพลนท์ปูน) ที่ถูกใช้ในโครงการสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ พร้อมกันทั้ง 7 จุดเป้าหมาย ในพื้นที่ย่านถนนนวลจันทร์ ถนนเพชรพระราม ถนนพระราม 9 กรุงเทพมหานคร และย่านถนนนครอินทร์ ตำบลบางกระสอ จังหวัดนนทบุรี เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงยึดและอายัดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีพิเศษที่ 32/2568 โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะตรวจสอบแหล่งที่มาของซีเมนต์ที่นำมาใช้ และจากข้อมูลการข่าวพบว่าแพลนท์ปูนเหล่านี้มีลักษณะการดำเนินงาน 2 รูปแบบ คือ เป็นแพลนท์ของบริษัทที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ซีเมนต์โดยตรงและบางแห่งเป็นแพลนท์ที่ดำเนินการในลักษณะแฟรนไชส์ ซึ่งในกรณีหลังนี้จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าวัตถุดิบซีเมนต์ที่ใช้มาจากบริษัทแม่ทั้งหมดหรือไม่
พันตำรวจตรี วรณันฯ เปิดเผยว่า การปฏิบัติการในวันนี้มุ่งเน้นการตรวจสอบเอกสารย้อนหลังเป็นหลัก เพื่อดูรายละเอียดกระบวนการสั่งซื้อซีเมนต์ วิธีการชำระเงิน และแหล่งที่มาของวัตถุดิบ เนื่องจากพบว่ามีการสั่งซื้อซีเมนต์อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2564 ดังนั้น การตรวจสอบจึงเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในอดีต ไม่ได้เน้นการวิเคราะห์ตัวซีเมนต์ที่พบในแพลนท์ปัจจุบันการตรวจค้นในครั้งนี้ต้องการทราบแหล่งที่มาของซีเมนต์ว่าตรงตามที่ระบุในเอกสารข้อกำหนดโครงการ (TOR) หรือไม่ หรือมีการนำซีเมนต์จากแหล่งอื่นมาใช้รวมถึงตรวจสอบกระบวนการสั่งซื้อและการชำระเงินทั้งหมด ซึ่งผลการตรวจค้นทั้ง 7 จุดเป้าหมายพบพยานหลักฐาน เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีพอสมควร จะดำเนินการอายัดเพื่อใช้ประกอบในสำนวนคดีต่อไป