DSI สนธิกำลังกรมส่งเสริมสหกรณ์ สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ตรวจค้นยึดอายัดทรัพย์สินในคดีฟอกเงินเกี่ยวกับการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด

เผยแพร่: 24 พ.ค. 2565 15:51 น. ปรับรุง: 27 พ.ค. 2565 11:02 น. เปิดอ่าน 1536 ครั้ง   EN
 

DSI สนธิกำลังกรมส่งเสริมสหกรณ์ สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง

ตรวจค้นยึดอายัดทรัพย์สิน ในคดีฟอกเงินเกี่ยวกับการทุจริต

ในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด

          วันนี้ (วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม 2565) นายไตรยฤทธิ์  เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พันตำรวจตรี ยุทธนา  แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  นายระวี  อักษรศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับ นายประกอบ เผ่าพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์  พันตำรวจเอก สมยศ  อุดมรักษาทรัพย์ ผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 6 จุด ได้แก่ สถานที่พักอาศัยในจังหวัดปทุมธานี จำนวน 2 จุด สถานประกอบกิจการภัตตาคารและร้านอาหารในจังหวัดปทุมธานี จำนวน 2 จุด  สถานประกอบกิจการโรงแรมในจังหวัดสมุทรสงครามและจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 2 จุด เพื่อแสวงหาหลักฐานและยึด/อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด เพื่อดำเนินคดีพิเศษ


          กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ได้รับคดีอาญาไว้ทำการสอบสวน กรณี มีการทุจริตภายในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด อันเป็นความผิดอาญาฐานลักทรัพย์นายจ้าง โดยพบว่ามีการทุจริตเงินสหกรณ์ฯ มากกว่า 600 ล้านบาท กระทำการหลายครั้งลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18)  แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จากการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่ามีการนำเงิน  ที่ทุจริตออกจากสหกรณ์ไปซื้อทรัพย์สินประเภทที่ดิน เพื่อประกอบกิจการรีสอร์ท บ้านพัก ภัตตาคาร ร้านอาหารหลายแห่ง รถยนต์หรูและทรัพย์สินอื่นอีกจำนวนมาก โดยยังพบว่ามีการนำไปลงทุนซื้อหลักทรัพย์หรือหน่วยลงทุนอื่นด้วย จึงเป็นพฤติการณ์ที่เข้าข่ายการเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน เพื่อปกปิดแหล่งที่มา อันเป็นความผิดฐานฟอกเงิน ตามมาตรา 5 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542  และเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 237/2565 เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวน และยึด/อายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด โดยจะได้มีการสืบสวนสอบสวนและ   ขยายผลเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป


           ผลการตรวจค้น ทั้ง 6 จุด พบทรัพย์สินประเภทที่ดิน จำนวน 8 แปลง มีเนื้อที่ประมาณ 61 ไร่  รถยนต์เปอโยต์ รุ่น BIPPER จำนวน 1 คัน  รถยนต์ฮุนได รุ่น H-1 จำนวน 1 คัน รถยนต์ปอร์เช่ รุ่น คาเยน จำนวน 1 คัน กระเป๋าแบรนด์เนมหลายใบ นาฬิกาหรูจำนวนหลายเรือน รวมทรัพย์สินฯ ที่ได้ทำการตรวจยึด/อายัดไว้มีมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะได้ทำการขยายผลเพื่อติดตามทรัพย์สินต่อไป

 

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ