ศาลจังหวัดอุดรธานี พิพากษาจำคุกจำเลยกว่า 17 ปี ฐานค้ามนุษย์และเป็นธุระจัดหาฯ

เผยแพร่: 10 ธ.ค. 2562 19:34 น. ปรับรุง: 10 ธ.ค. 2562 19:36 น. เปิดอ่าน 7312 ครั้ง  
 

ศาลจังหวัดอุดรธานี พิพากษาจำคุกจำเลยกว่า 17 ปี ฐานค้ามนุษย์และเป็นธุระจัดหาฯ

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ศาลจังหวัดอุดรธานีได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ คม 2/2562 ลงโทษจำเลยในความผิดฐานเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือลักพาซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีโดยกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ฐานเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่นเป็นธุระจัดหาล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารโดยกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปี ฐานค้ามนุษย์โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี และฐานส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิดและเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็กโดยเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท จึงพิพากษาลงโทษฐานค้ามนุษย์โดยกระทำแก่เด็กอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่ถึงสิบแปดปี อันเป็นบทลงโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 พิพากษาจำคุกรวม 17 ปีสองเดือนและปรับ 34,000 บาทจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่งคงเหลือจำคุกแปดปีเจ็ดเดือนและปรับ 17,000 บาท กับให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายเป็นเงินคนละ 50,000 บาทจำนวนสี่คนรวม 200,000 บาท

กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 เวลา 23.30 น. ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง โดยการสนับสนุนของมูลนิธิรณสิทธิ์ พร้อมด้วย พันตำรวจโท สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ ผู้อำนวยการกกองคดีการค้ามนุษย์ เข้าสนธิกำลังร่วมปฏิบัติการเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลหลักฐาน ณ ร้าน ต. ใหญ่ คาราโอเกะ พบการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยจับกุมเจ้าของร้าน ซึ่งมีการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ
ในการค้าประเวณี และการให้บริการทางเพศในรูปแบบอื่น มีผู้เสียหายเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 4 ราย และความผิดอื่นที่ปรากฏในที่เกิดเหตุ ต่อมาอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อนุมัติให้รับเรื่องดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษที่ 58/2562  ได้สอบสวนแล้วมีความเห็นควรสั่งฟ้องส่งพนักงานอัยการตามกฎหมาย และศาลได้มีคำพิพากษาดังกล่าว ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีการค้ามนุษย์อยู่ระหว่างขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับสามีเจ้าของร้านซึ่งทางการสืบสวนพบว่าอาจเป็นเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ

 

การดำเนินการดังกล่าวข้างต้น เป็นการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการปฏิรูปการทำงานระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน และเป็นการบูรณาการทรัพยากรในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมสำคัญ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษมีความมุ่งมั่นในการสืบสวน สอบสวน ป้องกันและปราบปรามคดีด้านการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแสเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ สามารถแจ้งมายังกรมสอบสวนคดีพิศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หรือ
ทางสายด่วน DSI Call Center 1202 (โทรฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ

************************************************

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ