DSI จับกุมผู้ร่วมขบวนการแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ หลอกซื้อถุงมือยางทางการแพทย์

เผยแพร่: 18 มิ.ย. 2568 13:50 น. ปรับปรุง: 18 มิ.ย. 2568 14:03 น. เปิดอ่าน 35 ครั้ง  
 

DSI จับกุมผู้ร่วมขบวนการแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ หลอกซื้อถุงมือยางทางการแพทย์




          วานนี้ (วันอังคารที่ 17 มิถุนายน 2568) เวลาประมาณ 16.30 น. ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว พร้อมกำลังเจ้าหน้าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสะเดา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันจับกุม นางสาวเกษกนก (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 3042/2568 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 คดีพิเศษที่ 118/2566 ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนด้วยการแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดาจังหวัดสงขลา ซึ่งเจ้าพนักงานชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และรวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับกุมและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งมอบตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 โดยผู้ต้องหาได้รับทราบแล้ว จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

          คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 118/2566 ของกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรณี แก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ  สร้างเว็บไซต์หลอกหลวงให้ซื้อสินค้า/บริการที่ไม่มีอยู่จริงกว่า 2,000 เว็บ มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท โดยนางสาวเกษกนกฯ มีสถานะเป็นภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสกับนายเดอร์ริค (สงวนนามสกุล) (ผู้ต้องหาที่ 3) ได้เปิดบัญชีธนาคารจำนวน 2 บัญชี เพื่อใช้ในการร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อว่ามีการซื้อ-ขายถุงมือยางทางการแพทย์และการให้บริการขนส่งทางเรือ โดยในช่วงแรกได้มีการแจ้งบัญชีธนาคารกสิกรไทย ซึ่งมีชื่อนางสาวเกษกนกฯ เป็นเจ้าของ ให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าสินค้า แต่ก่อนที่ผู้เสียหายจะดำเนินการโอนเงิน ได้เปลี่ยนแปลงเป็นบัญชีธนาคารของบริษัทเอกชนอื่น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและปกปิดเจตนาที่แท้จริง ต่อมาเมื่อได้รับการโอนเงินก็จะถอนเป็นเงินสดและนำฝากเข้าบัญชีของนางเกษกนกฯ และโอนเงินต่อไปยังบัญชีของนายเดอร์ริคฯ ซึ่งนายเดอร์ริคฯ ได้นำเงินดังกล่าวไปฟอกโดยการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล (เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี) แล้วถอนออกมาเป็นเงินสดเพื่ออำพรางแหล่งที่มาและตัดความเชื่อมโยงกับการกระทำความผิด ซึ่งนางสาวเกษกนกฯ เป็นผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้เป็นรายที่ 11 จากจำนวน 24 ราย

          ทั้งนี้ การดำเนินการในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พันตำรวจตรี จตุพล บงกชมาศ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงการบังคับบัญชา จัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ