DSI เปิดปฏิบัติการ “ธัญโวลต์ (Thanya Volt)” ทลายเหมืองบิตคอยน์ 25 แห่ง ย่านธัญบุรีพบเครื่องขุดกว่า 350 เครื่อง มูลค่าความเสียหายปีละกว่า 50 ล้านบาท

เผยแพร่: 19 ก.ย. 2568 16:29 น. ปรับปรุง: 19 ก.ย. 2568 16:38 น. เปิดอ่าน 67 ครั้ง  
 

DSI เปิดปฏิบัติการ “ธัญโวลต์ (Thanya Volt)” ทลายเหมืองบิตคอยน์ 25 แห่ง

ย่านธัญบุรีพบเครื่องขุดกว่า 350 เครื่อง มูลค่าความเสียหายปีละกว่า 50 ล้านบาท

                  วันนี้ (วันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2568) เวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษนำโดย ร้อยตำรวจเอก เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ และฝ่ายปกครองนำโดย นายสมยศ  พลสว่าง ปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง รักษาราชการแทนนายอำเภอธัญบุรี นายกองตรี เสริมวิทย์ สมบัติ ป้องกันจังหวัดปทุมธานี นายอธิปัตย์ เสียมไหม ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเปิดปฏิบัติการ “ธัญโวลต์ ทลายเหมืองบิตคอยน์” โดยลงพื้นที่นำหมายค้นเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ในเขตอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี หลังได้รับแจ้งจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 (ภาคกลาง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่ามีการลักลอบใช้ไฟฟ้าสำหรับทำเหมืองขุดเงินดิจิทัล โดยเฉพาะบิตคอยน์อย่างผิดกฎหมาย 

                    จากการสืบสวนสอบสวนของกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ในคดีพิเศษที่ 127/2567 พบว่าเครือข่ายผู้ต้องสงสัยทั้งคนไทยและชาวต่างชาติร่วมมือกันเป็นขบวนการ ได้เช่าบ้านและอาคารพาณิชย์กว่า 25 แห่งในพื้นที่ชุมชนอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อติดตั้งเครื่องขุดเงินดิจิทัลและลักลอบใช้กระแสไฟฟ้า ส่งผลให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้รับความเสียหายมากกว่า 50 ล้านบาทต่อปี อันกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ ผลการตรวจค้นปรากฎพบเครื่องขุดเงินดิจิทัล จำนวน 358 เครื่อง จึงยึดไว้ดำเนินการตามกฎหมาย 

                        กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอความร่วมมือประชาชนช่วยสอดส่อง หากพบอาคารพาณิชย์หรือสถานที่ต้องสงสัยเป็นเหมืองขุดเงินดิจิทัลผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทันที เนื่องจากการกระทำดังกล่าวนอกจากสร้างความเสียหายให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อรายได้ที่ต้องนำส่งให้กับรัฐ เนื่องจากการทำเหมืองบิตคอยน์ต้องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากเทียบเท่าโรงงานอุตสาหกรรมแต่ผู้ประกอบการบางรายกลับลักลอบดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้า โดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ควบคุมให้มิเตอร์แสดงตัวเลขการใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าความจริง จากการตรวจสอบประเมินได้ว่าบ้านหนึ่งหลังติดตั้งเครื่องขุดเงินดิจิทัล ประมาณ 12 เครื่อง แต่ละเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลัง 3.6 กิโลวัตต์ หากคิดค่าไฟฟ้าตามความเป็นจริงจะสูงราว 150,000 บาทต่อเดือน แต่กลับจ่ายเพียง 100 - 400 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา รวมถึงความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังสร้างความเสี่ยงต่อชุมชนโดยรอบ เช่น ปัญหาไฟดับ ไฟตก และอัคคีภัยจากการใช้ไฟเกินกำลัง

                 ทั้งนี้ หากพบเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามีส่วนเกี่ยวข้อง กรมสอบสวนคดีพิเศษยืนยันจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องความมั่นคงทางเศรษฐกิจและพลังงานของประเทศ


เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ