ดีเอสไอรวบนายหน้าลวงค้ากามที่ดูไบ บังคับขายตัว เหยื่อหาเงินไถ่ตัวเองร่วมแสน

เผยแพร่: 11 พ.ย. 2565 8:37 น. ปรับรุง: 11 พ.ย. 2565 8:37 น. เปิดอ่าน 1801 ครั้ง  
 

ดีเอสไอรวบนายหน้าลวงค้ากามที่ดูไบ บังคับขายตัว เหยื่อหาเงินไถ่ตัวเองร่วมแสน


          เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565  ภายใต้การอำนวยการของนายไตรยฤทธิ์  เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้      ร้อยตำรวจเอก เขมชาติ  ประกายหงษ์มณี  ผู้อำนวยการศูนย์คดีละเมิดทางเพศเด็ก/หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับพันตำรวจตรี สิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิ์กุล  ผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์     พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว  นำกำลังจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา จำนวน 2 ราย ตามคดีพิเศษที่ 67/2564  ในข้อหา “ร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์  โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี” โดยจับกุมได้ในพื้นที่จังหวัด ชลบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี  
          คดีพิเศษดังกล่าวสืบเนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับการประสานงานจากเครือข่ายชุมชนคนไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่าได้ให้ความช่วยเหลือหญิงไทย ซึ่งถูกหลอกลวงไปบังคับค้าประเวณี ณ นครดูไบ โดยพฤติการณ์ คือ เมื่อเดือนมีนาคม 2564 กลุ่มผู้ต้องหาซึ่งมีทั้งชาวไทย และชาวจีน ได้ชักชวนโดยการหลอกลวงผู้เสียหายว่า มีงานนวดที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รายได้ชั่วโมงละ 600 บาท      โดยผู้เสียหายจะต้องทำงานใช้หนี้ค่าแท็ค 56,000 บาท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงตอบรับการชักชวน ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาได้พาผู้เสียหายไปตรวจร่างกายก่อนเดินทาง ทำวีซ่า ซื้อตั๋วเครื่องบิน และเรียกรถแท็กซี่ให้พาผู้เสียหายไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่เมื่อเดินทางไปถึงนครดูไบแล้ว ผู้เสียหายกลับถูกกลุ่มผู้ต้องหา       ยึดหนังสือเดินทาง และพาไปกักขังที่ร้านนวดแต่ด้านในเป็นสถานค้าประเวณีซึ่งล็อคประตูร้านไว้ตลอดเวลา และบังคับให้ผู้เสียหายค้าประเวณีเพื่อนำเงินมาจ่ายหนี้ค่าแท็ค  จนกระทั่งท้ายที่สุด ผู้เสียหายต้องโอนเงินให้กลุ่มผู้ต้องหาเพื่อไถ่ตนเอง จำนวน 62,000 บาท  จึงได้รับหนังสือเดินทางคืนจากกลุ่มผู้ต้องหา และเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย และเข้าร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ  จนมีการออกหมายจับผู้ต้องหาชาวไทยและชาวต่างชาติ จำนวน 5 ราย  ต่อมาเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565   สามารถจับตัวผู้ต้องหาหญิงไทย จำนวน 2 ราย ที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวนี้  สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เบื้องต้นจึงนำตัวขออำนาจฝากขัง ณ ศาลอาญา กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
          กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความมุ่งมั่นในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง จึงขอแจ้งเตือนประชาชนโปรดอย่าหลงเชื่อบุคคลซึ่งเป็นนายหน้าอ้างว่ามีงานนวดแผนไทย    ในต่างประเทศ มีรายได้ดี อยู่กินสุขสบาย ไม่มีการบังคับขายบริการทางเพศ เช่น สาธารณรัฐเกาหลี สหพันธรัฐมาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และราชอาณาจักรบาห์เรน เป็นต้น  โดยหากประชาชนมีความประสงค์     จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศโปรดติดต่อกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน โดยตรง ทั้งนี้ หากมีข้อมูลหรือเบาะแสเกี่ยวกับการค้ามนุษย์  สามารถแจ้งมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ  โทรศัพท์  สายด่วน 1202     (ฟรีทั่วประเทศ)  โดยข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสจะถูกเก็บรักษาเป็นความลับ

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ