DSI จับผู้ต้องหาโจรกรรมรถยนต์ได้เพิ่มเติม 2 ราย

เผยแพร่: 29 ส.ค. 2561 9:52 น. ปรับรุง: 29 ส.ค. 2561 9:52 น. เปิดอ่าน 1820 ครั้ง  
 

 

DSI จับผู้ต้องหาโจรกรรมรถยนต์ได้เพิ่มเติม 2 ราย

สืบเนื่องจากกรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินคดีกรณีกลุ่มแก๊งค์โจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติ ได้ลักรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กธ 9099 นครราชสีมา ของนายธำรงค์ศักดิ์ หงษ์ขุนทด ไปจากลานจอดรถของห้างเทสโก้โลตัส สาขานครราชสีมา เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2555 และลักรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สี่ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน ป้ายแดง ก 0202 นครราชสีมา ของนางบุษญา ญาณประเสริฐกุล ไปจากลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขานครราชสีมา เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2555 ซึ่งภายหลังพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสืบสวนสอบสวน จนทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ เป็นแก๊งโจรกรรมรถยนต์รายใหญ่ที่สำคัญ ซึ่งทำการโจรกรรมรถยนต์มานานกว่า 30 ปี และยังมีความเกี่ยวข้องกับคดีโจรกรรมรถยนต์ในพื้นที่ สน.บางพลัด สน.พหลโยธิน สภ.เมืองพิษณุโลก สภ.บางบัวทอง สภ.คลองข่อย และสภ.หล่มสัก

ต่อมา คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่เดินติดตามเจ้าของรถยนต์ และผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่นำรถยนต์ส่งข้ามแม่น้ำโขงไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้รวมจำนวน 5 ราย คือ นายธงชัย กตะศิลา, นางสาวอรรยา พรหมกลศ, นายสันติสุข กุลอ่อน นายอุทัย เอกพันธุ์ และนางกาญจนา ไกรธรรม

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในส่วนของผู้ต้องหาราย นายธงชัย กตะศิลา, นางสาวอรรถยา พรหมกลศ และนายสันติสุข กุลอ่อน โดยให้จำคุกคนละ 12 ปี ผู้ต้องหาทั้งสามให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 6 ปี ไม่มีเหตุให้รอลงอาญา และให้ใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหายทั้งสองราย
ในส่วนของผู้ต้องหาอีก 2 ราย อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี

ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2561 เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำความผิดได้เพิ่มเติมอีก 2 ราย คือ นายตรีทศพล วิเชียรโรจน์ และนางสาววาสนา ทัพสกุล ภรรยาของนายตรีทศพลฯ ได้ที่บริเวณห้องเช่าในจังหวัดพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่ผู้จับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (3) (7), 335 วรรคสอง, 336 ทวิ และมาตรา 357 ประกอบมาตรา 83 โดยนายตรีทศพลฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา แต่ในส่วนของนางสาววาสนาฯ ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดแต่อย่างใด

ทั้งนี้ นายตรีทศพล วิเชียรโรจน์ เป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ โดยเป็นผู้ลงมือโจรกรรมรถยนต์โดยใช้อุปกรณ์รบกวนสัญญาณรีโมทและใช้อุปกรณ์ติดเครื่องยนต์แล้วขับรถหนีไป เนื่องจากอดีตเคยทำงานเป็นพนักงานในศูนย์ให้บริการรถยนต์หลายแห่ง ทำให้มีความรู้ความชำนาญในเรื่องเครื่องยนต์กลไกเป็นอย่างดี และนำความรู้ที่ได้มาใช้ก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์ โดยนายตรีทศพลฯ ต้องคดีลักทรัพย์รถยนต์ในพื้นที่ สน.บางพลัด สน.พหลโยธิน และสภ.บางบัวทอง และได้หลบหนีไปในระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราวเป็นเวลากว่า 6 ปี จนถูกเจ้าหน้าที่สืบสวนสะกดรอยสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด

 

 

**********************************************

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ