DSI จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีพิเศษ กรณี บุกอาคารรัฐสภา ปี 2553

เผยแพร่: 5 เม.ย. 2563 15:12 น. ปรับรุง: 5 เม.ย. 2563 15:12 น. เปิดอ่าน 2528 ครั้ง  
 

DSI จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีพิเศษ กรณี บุกอาคารรัฐสภา ปี 2553

ในวันนี้ (วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2563) เวลาประมาณ 07.00 น. ชุดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา ภายใต้การอำนวยการของพันตำรวจโท สถาพร จตุวรพัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว นำโดย ว่าที่ร้อยเอก สุริยา ก่อเกิดพนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองร้อยทหารสารวัตร มณฑลทหารบกที่ 44 ค่ายเขตอุดมศักดิ์ จังหวัดชุมพร โดยได้รับการสนับสนุนกำลังพลจาก พลตรี พรชัย อินทนู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 มอบหมายให้ ร้อยเอก อาทิตย์ คลังนิมิตร ผบ.ร้อย สห.มทบ.44 นำหมายจับของศาลอาญาที่ 1551/2562 ลงวันที่17 สิงหาคม 2562 (คดีพิเศษที่ 59/2553) เข้าทำการจับกุม พันตำรวจตรี เสงี่ยม สำราญรัตน์ ผู้ต้องหาในคดีบุกรุกอาคารรัฐสภาเมื่อปี พ.ศ. 2553 ได้ที่บริเวณหน้าบ้านพัก เลขที่ 12 หมู่ 7 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพรโดยมีการนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจวัดอุณหภูมิที่โรงพยาบาลปากน้ำชุมพร พบว่ามีอุณหภูมิในร่างกาย 37 C° ไม่มีอาการไข้ ไม่มีโรคประจำตัว และไม่มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงโรคติดเชื้อไวรัส COVID – 19 จึงนำตัวมาควบคุมที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยคดีนี้จะครบกำหนดอายุความในวันอังคารที่ 7 เมษายน 2563 ซึ่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจักได้ประสานงานพนักงานอัยการ เพื่อเร่งฟ้องคดีภายในวันดังกล่าวต่อไป

 

นายแพทย์ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวว่า แม้ว่าปัจจุบันจะอยู่ในช่วงที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อกำหนดมาตรการในการป้องกันการระบาดของไวรัส COVID – 19 แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษยังคงดำเนินการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมคดีพิเศษอย่างต่อเนื่อง ทั้งคดีที่เกิดขึ้นในช่วงนี้และคดีที่ค้างเก่า โดยเจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง และมีการปรับกำลังให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทุกนายจะต้องมีการป้องกันตนเองตามมาตรการเพื่อให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัส COVID – 19 นอกจากนื้ พันตำรวจโท สุภัทธ์  ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะกำกับดูแลกองปฏิบัติการคดีพิเศษที่รับผิดชอบในการควบคุมผู้ต้องหา ได้กำชับให้มีการเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลผู้ต้องหา โดยให้มีการจัดเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้น และจัดให้มีเวรตรวจตราเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมผู้ต้องหาทุก 2 ชั่วโมง อีกด้วย 

 

สำหรับห้องควบคุมผู้ต้องหาได้มีการทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อโรคก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นไปตามมาตรการในการป้องกันโรคไวรัส COVID - 19 ให้มีความปลอดภัยสำหรับประชาชนผู้มาติดต่อราชการ รวมทั้งการดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีอาญา ทั้งผู้เสียหาย พยาน และผู้ต้องหาระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ