นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ กรณี DSI - สตช. - ปปช. - ปปท. ผนึกกำลังกรมการปกครองเปิดยุทธการ “ตัดหมอกเวียงแหง – ล้างบางเจ้าหน้าที่รัฐภัยความมั่นคง จัดการให้คนต่างด้าวสวมสิทธิทำบัตรประชาชน”

เผยแพร่: 20 พ.ย. 2568 13:47 น. ปรับปรุง: 20 พ.ย. 2568 13:47 น. เปิดอ่าน 74 ครั้ง  
 

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.30 น. ณ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พลตำรวจโท รุทธพล  เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจตรี ยุทธนา  แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พล.ต.ท.กฤตธาพล  ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติงานและร่วมกันแถลงข่าวการดำเนินคดีกับขบวนการนำคนต่างด้าวมาสวมสิทธิทำบัตรประชาชนในพื้นที่อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่

                 กรณีดังกล่าว สืบเนื่องกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับการแจ้งเบาะแสการทุจริต และเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่รัฐในกระบวนการขอสัญชาติและสถานะบุคคลในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมีคำสั่งมอบหมายให้กองกิจการอำนวยความยุติธรรม ทำการสืบสวนเป็นสำนวนสืบสวนที่ 132/2568 ทางการสืบสวนพบมูลความผิดอาญาจึงประสานข้อมูลกับบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ในการขอหมายจับและหมายค้นของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ในความผิดฐานในความผิดฐานร่วมกันกระทำการเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมีชื่อหรือมีรายการในทะเบียนบ้านหรือเอกสารการทะเบียนราษฎรอื่นโดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานทำเอกสารเท็จและเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต รวมทั้งความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ต่อมา ระหว่างวันที่ 18 - 19 พฤศจิกายน 2568 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ  ฉิมตระกูล รองอธิบดี    กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พันตำรวจตรีเกรียงไกร สืบสัมพันธ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม นายสมชาย ติไชย ผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 และเจ้าหน้าที่กองกิจการอำนวยความยุติธรรมและศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้บูรณาการตามมาตรา 22/1 แห่งพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษฯ ร่วมกับ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมการปกครอง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ร่วมปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมตามหมายจับและหมายค้นของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ในพื้นที่เชียงใหม่ พะเยา กรุงเทพมหานคร และสมุทรสาคร เป็นหมายจับบุคคลประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 10 ราย ประกอบด้วย นายอำเภอ 1 ราย ปลัดอำเภอ 2 ราย ลูกจ้างอำเภอ 4 ราย และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จำนวน 3 ราย พลเรือน จำนวน 3 ราย ได้แก่ พยานรับรองเท็จ 1 รายและบุคคลผู้ทุจริตรายการ เป็นบุคคลสัญชาติจีนที่มาสวมตัวทำบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรหัวเลข 0) จำนวน 1 ราย และบุคคลที่มีพฤติการณ์เป็นนายหน้า จำนวน 1 ราย รวมผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้จำนวน 13 ราย ทั้งนี้ มีการตรวจค้นพื้นที่จำนวน 3 แห่ง และมีการตรวจยึดสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เช่น โทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชีธนาคาร สมุดจดบันทึก หลักฐานการโอนเงินและเอกสารหลักฐานอื่นที่แสดงความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทุจริตทางทะเบียนราษฎร โดยนำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ดำเนินการต่อไป

                ทั้งนี้ การปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และพลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการบังคับใช้กฎหมาย โดยพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการตามนโยบายล้างบาง   “กลุ่มจีนเทา” และคนต่างด้าวที่เป็นเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใช้ช่องทางการสวมตัวเป็นบุคคลสัญชาติไทย เพื่อมาใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิดหรือหลบซ่อนตัว โดยได้สั่งการให้กองกิจการอำนวยความยุติธรรม และกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค โดยศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 ร่วมบูรณาการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และบูรณาการตรวจค้นจับกุม เพื่อปราบปรามและดำเนินคดีกับขบวนการทุจริตเพื่อให้คนต่างด้าวมีสิทธิอาศัยถาวรในประเทศไทย ภายใต้ยุทธการ “ตัดหมอกเวียงแหง” ในครั้งนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป


เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ