DSI ผนึกกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจพื้นที่กรณีพบการบุกรุกในเขตนิคมสหกรณ์อ่าวลึกพื้นที่ตำบลเขาบอน อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ เนื้อที่กว่า 1,100 ไร่

เผยแพร่: 8 พ.ย. 2568 13:42 น. ปรับปรุง: 8 พ.ย. 2568 13:42 น. เปิดอ่าน 39 ครั้ง  
 


เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีดีพิเศษ
ได้มอบหมายให้ พันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้การกำกับดูแลของพันตำรวจตรี จตุพล บงกชมาศ รองอธิบดีกรมสอบสอบสวนคดีพิเศษ สั่งการให้ นายพงษ์ธวัช อ่วมสำอางค์ ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพยากรธธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 1 และคณะพนักงานสืบสวนลงพื้นที่ในเขตนิคมสหกรณ์อ่าวลึกในพื้นที่ ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ เพื่อตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่นิคมสหกรณ์อ่าวลึก เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรอำเภอ
ปลายพระยา เจ้าหน้าที่อำเภอปลายพระยา เพื่อตรวจสอบกรณีพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ในเขตนิคมสหกรณ์อ่าวลึกกว่า 1,100 ไร่ อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 และประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

กรณีดังกล่าวได้รับเรื่องร้องเรียน กรณีกล่าวหาว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพลบุกรุกเข้ายึดถือครอบครองที่ดินในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลเขาบอน และหมู่ที่ 11 ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ เนื้อที่ประมาณ 1,100 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ในความดูแลของนิคมสหกรณ์อ่าวลึกจังหวัดกระบี่ มาเป็นของตนเองกับพวกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นสำนวนสืบสวนที่ 109/2568 โดยมีกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
จากการสืบสวนพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ซึ่งอยู่ในเขตนิคมสหกรณ์อ่าวลึก และพบกลุ่มเครือข่ายซึ่งเป็นกลุ่มไร้ที่ดินทำกินมุ่งเป้าไปที่ที่ดินอันเป็นที่ดินของรัฐที่หมดสัมปทานหรือสิ้นสุดระยะเวลาการอนุญาตให้ใช้พื้นที่แล้ว กลุ่มเครือข่ายดังกล่าวจะใช้วิธีการให้มวลชนในเครือข่ายเข้าไปกดดันเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการจัดสรรที่ดินทำกินให้ เช่น การปักหลักกางเตนท์ผ้าใบซึ่งบางครั้งมีการใช้กำลัง และอาวุธเข้าทำร้ายร่างกายระหว่างกลุ่มเครือข่าย จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ากลุ่มผู้ครอบครองที่ดินที่อ้างหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีอาญากับแกนนำกลุ่มม็อบสวนยาง สวนปาล์ม และต่อศาลจังหวัดกระบี่

      ทั้งนี้ เรื่องร้องเรียนกรณีนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเกี่ยวข้องกับประชาชนตลอดจนมวลชนในพื้นที่จำนวนมาก โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเร่งทำการสืบสวนหากพบความผิดที่เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ เดี๋ยวได้พิจารณาแล้วทำการสอบสวนเป็นพิเศษเพื่อทำความจริงให้ปรากฏต่อไป


เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ