กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับกรมศุลกากร กรมโรงงานอุตสาหกรรม และการท่าเรือแห่งประเทศไทย ตรวจสอบสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ เข้าข่ายเป็นของเสียอันตรายภายใต้อนุสัญญาบาเซล จำนวน 36 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักรวม 736 ตัน
published: 6/11/2025 9:56:44 AM updated: 6/11/2025 10:15:50 AM 190 views
กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับกรมศุลกากร กรมโรงงานอุตสาหกรรม และการท่าเรือแห่งประเทศไทย
ตรวจสอบสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ เข้าข่ายเป็นของเสียอันตรายภายใต้อนุสัญญาบาเซล จำนวน 36 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักรวม 736 ตัน
วันที่10 มิถุนายน 2568 เวลา 11.00 น. นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นางนันท์ฐิตา ศิริคุปต์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร พร้อมด้วย นายเอกวุฒิ นาเอก ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ นางสาวช่อฉัตร หอวัง ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการตรวจสอบสินค้า ร่วมกับ นางสาวนวพร สงวนหมู่ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค กรมสอบสวนคดีพิเศษ และการท่าเรือแห่งประเทศไทย ร่วมตรวจสอบสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ เข้าข่ายเป็นของเสียอันตรายภายใต้อนุสัญญาบาเซล จำนวน 36 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักรวม 736 ตัน ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ
การดำเนินการในกรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากได้รับการเปิดเผยจาก นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ว่าตามนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการนำเข้าของเสียอันตราย เพื่อความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้กรมศุลกากรเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าสินค้าที่เข้าข่ายของเสียอันตรายภายใต้อนุสัญญาบาเซล โดยการดำเนินการในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพและกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อควบคุมการนำเข้าสินค้าของเสียอันตรายภายใต้อนุสัญญาบาเซล ทั้งนี้ได้ตรวจสอบตู้สินค้าตกค้างระบุในใบตราส่งสินค้าเป็น ZINC CONCENTRATE จำนวน 36 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนัก 736,425 กิโลกรัม ประเทศต้นทางโมร็อกโก โดยสินค้ามีลักษณะเป็นผงละเอียดสีน้ำตาล มีกลิ่นฉุน บรรจุในถุงกระสอบ ตรวจสอบโดยเครื่อง X-ray fluorescence หรือ XRF พบปริมาณธาตุโลหะหลักเป็นสังกะสี 32.2% เหล็ก 13.5% และมีการปนเปื้อนของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว 1.24% แคดเมียม 890 ppm และพลวง 540 ppm เข้าข่ายเป็นของเสียอันตรายตามอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ควบคุมการเคลื่อนย้ายของเสียอันตรายข้ามแดน เพื่อป้องกันการถ่ายโอนของเสียอันตรายจากประเทศพัฒนาแล้วไปยังประเทศกำลังพัฒนา ตามอนุสัญญาบาเซล
กรณีนี้เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 บัญชีที่ 5.2 ของเสียเคมีวัตถุ ลำดับที่ 2.2 และอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด สำหรับของเสียอันตรายดังกล่าว กรมศุลกากรจะผลักดันออกนอกประเทศ พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกันไม่ให้สินค้าอันตรายเข้ามาในประเทศ เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ สถิติการจับกุมการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษพลาสติก สังกะสีออกไซด์ ในปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567 - 9 มิถุนายน 2568) แบ่งเป็น ขยะอิเล็กทรอนิกส์ จับกุมได้ 37 ราย จำนวน 505,073 กิโลกรัม เศษพลาสติก จับกุมได้ 13 ราย จำนวน 445,122 กิโลกรัม สังกะสีออกไซด์ จับกุมได้ 2 ราย จำนวน 499,649 กิโลกรัม โดยกรมศุลกากรจะบูรณาการความร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวและตรวจเข้มการนำเข้าส่งออกอย่างเคร่งครัดต่อไป
Documents related
- S__71835674.jpg
- S__454041602_0.jpg
- S__454041611_0.jpg
- S__454041610_0.jpg
- S__454041612_0.jpg
- S__454041613_0.jpg
- S__454041615_0.jpg
- S__454041616_0.jpg
- S__454041617_0.jpg
- S__454041618_0.jpg
- S__454041620_0.jpg
- S__454041623_0.jpg
- S__454041624_0.jpg
- S__454041627_0.jpg
- S__454041628_0.jpg
- S__454041629_0.jpg
- S__454041630_0.jpg
- S__454041631_0.jpg
- S__454041632_0.jpg