สรุปผลการประชุม ศรส. เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๗

เผยแพร่: 5 มี.ค. 2557 23:26 น. ปรับรุง: 5 มี.ค. 2557 23:26 น. เปิดอ่าน 1220 ครั้ง  
 
ศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส. มีผลการประชุมสมควรแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ ดังนี้
๑. ศรส.เป็นองค์กรพิเศษที่จัดตั้งตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ โดย ศรส.ไม่ใช่คู่กรณีหรือคู่ขัดแย้งกับกลุ่มใด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม กปปส. กลุ่มคัดค้าน กปปส. กลุ่ม นปช. หรือกลุ่มอื่น แต่ ศรส.มีหน้าที่รักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตย และบังคับใช้กฎหมายเพื่อนำความสงบสุขกลับสู่สังคมโดยเร็ว แต่เนื่องจากศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาสั่งห้าม ศรส.ดำเนินการในเรื่องที่เป็นภารกิจหลักอันสำคัญถึง ๙ ข้อ ศรส.จึงอยู่ในสภาพขาดเครื่องมือตามกฎหมายที่จะดำเนินการในมาตรการสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเหตุร้ายและความรุนแรงที่เกิดขึ้นรายวันอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ภายใต้ข้อจำกัดดังกล่าว ศรส.ก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการทำหน้าที่เท่าที่พอจะทำได้ เช่น การแจ้งเตือนประชาชนให้งดเว้นการเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม กปปส. และกลุ่มอื่น ๆ ทุกกลุ่ม การพยายามเจรจาให้มีการเปิดพื้นที่สี่แยกและถนนสาธารณะจากผู้ชุมนุมทุกกลุ่ม การดูแลและป้องกันสถานที่ราชการที่ถูกกลุ่ม กปปส.เข้าปิดล้อมให้สามารถเปิดบริการประชาชนตามปกติให้จงได้ และการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิดในทุก ๆ ฐานความผิดที่มีการฝ่าฝืนกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำผิดด้วยการขัดขวางการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา อันส่งผลเสียหายจนไม่สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตามกำหนดวันที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ได้ เพื่อเป็นการป้องปรามการกระทำผิดมิให้เกิดขึ้นอีกในอนาคตที่จะมีการจัดการเลือกตั้งขึ้นอีก

 

๒. ศรส.ได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ณ วันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๗ ว่า ได้รับคดีที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ดังนี้ ๑) คดีขัดขวางการเลือกตั้งทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น ๑๙๐ คดี แยกเป็นคดีที่ กปปส.ในกรุงเทพมหานครกระทำการขัดขวางการเลือกตั้ง ๕๑ คดี และคดีที่ กปปส.ในต่างจังหวัดกระทำการขัดขวางการเลือกตั้ง ๑๓๙ คดี ๒) คดีที่เจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้ง รวมทั้งสิ้น ๑๗๔ คดี แยกเป็นคดีที่เกิดในกรุงเทพมหานคร จำนวน ๖๓ คดี และคดีที่เกิดในต่างจังหวัดจำนวน ๑๑๑ คดี รวมคดีที่เกี่ยวกับการกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งทั้งสิ้น ๓๖๔ คดี โดยศาลได้ออกหมายจับให้ รวมทั้งสิ้น ๑๖๓ คน ได้ตัวมาสอบสวนแล้ว ๖๖ คน ทั้งนี้เฉพาะเจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้งมีจำนวนถึง ๑,๔๕๑ คน ซึ่งโทษที่เกี่ยวข้องกับการขัดขวางการเลือกตั้งเป็นความผิดอุกฉกรรจ์ที่มีทั้งโทษจำคุกและปรับ รวมถึงการตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา ๕ ปี ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง

 

๓. บ่ายวันนี้ ผู้อำนวยการ ศรส.ได้ลงนามคำร้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตามบทบัญญัติมาตรา ๖๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อขอให้วินิจฉัยว่า การชุมนุมของ กปปส.เป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งในเรื่องนี้เคยมีผู้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญหลายครั้งแล้ว แต่ ศรส.เห็นว่าการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ โดยเฉพาะการกระทำผิดต่าง ๆ ของแกนนำ กปปส. อย่างต่อเนื่องและต่างกรรมต่างวาระ ตลอดจนพยานหลักฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะความเสียหายที่เกิดแก่ประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความเดือดร้อนของประชาชน ที่จะเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้น ต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนั้น คำร้องที่ยื่นในวันนี้จึงมีรายละเอียดดังกล่าวอย่างครบถ้วนถึง ๘๙ แฟ้ม (แฟ้มละประมาณ ๓๐๐ หน้า) โดยการยื่นเรื่องต่อ ศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง จะเป็นผู้ยื่นทั้งในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้อำนวยการ ศรส.
จึงประกาศมาเพื่อทราบทั่วกัน

 

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ