ศาลสั่งจำคุกแชร์เครื่องสำอาง 236 ปี

เผยแพร่: 28 พ.ย. 2559 10:11 น. ปรับรุง: 28 พ.ย. 2559 10:11 น. เปิดอ่าน 1052 ครั้ง  
 

ศาลสั่งจำคุกแชร์เครื่องสำอาง 236 ปี

 

          ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินคดีซึ่งพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายจักรวัฒน์รัจนะติสร้อย (จำเลย) ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยจำเลยกับพวก (จำเลยคดีหมายเลขแดงที่ อ.2679/2553 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.973/2557) ได้ร่วมกันหลอกลวงประชาชนด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนและปกปิดความจริงที่ควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ด้วยการชักชวนให้ประชาชนนำเงินมาร่วมลงทุนกับบริษัทซีวัน นูเทรี้ยน จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจขายตรง เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และให้บุคคลที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องชักชวนผู้ที่รู้จักมาร่วมลงทุนตามแผนการตลาด ด้วยวิธีการนำใบปลิวประกาศในที่สาธารณะต่างๆ และจัดบรรยายแผนการตลาด ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด แล้วบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้ไปซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง เพื่อจำหน่ายแก่บุคคลทั่วไปและนำผลกำไรเข้าบริษัทส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งแบ่งปันให้พนักงานหรือสมาชิกตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่าย แต่ความจริงบริษัทฯ ไม่มีเจตนารับพนักงานหรือสมาชิก และไม่มีเจตนานำเงินที่ร่วมลงทุนไปประกอบกิจการตามที่อ้างมาตั้งแต่ต้น ส่งผลให้ผู้เสียหายจำนวนมากหลงเชื่อว่าเป็นความจริง จึงสมัครเป็นพนักงานหรือสมาชิกร่วมลงทุน รวมเป็นมูลค่าความเสียหายจำนวน 953,320,100 บาท (คดีพิเศษที่ 30/2551)
          ศาลอาญาพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 วรรคหนึ่ง มาตรา 83, พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 12 โดยความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ความผิดของจำเลยเป็นการกระทำแยกออกจากกันได้ จึงเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 59 กระทง เมื่อจำเลยแถลงรับข้อเท็จจริงและนำสืบเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงเป็นเหตุให้ลดโทษจำเลยหนึ่งในห้า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยกระทงละ 4 ปี รวม 59 กระทง เป็นจำคุกจำเลย 236 ปี แต่ความผิดดังกล่าวมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 10 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (2) จึงลงโทษจำคุกจำเลย 20 ปี ส่วนที่โจทก์ขอให้จำเลยกับพวกคืนเงินแก่ผู้เสียหายกับจ่ายเงินรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้ตรวจค้นและจำกุมจำเลยนั้น สำหรับการคืนเงิน เมื่อปรากฏว่าผู้เสียหายได้รับเงินคืนจากจำเลยในคดีดังกล่าวแล้ว และสำหรับเงินรางวัล ศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกสถานเดียวมิได้ลงโทษปรับ จึงให้ยกคำขอที่ให้คืนเงินแก่ผู้เสียหายกับยกคำขอให้จ่ายเงินรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้ตรวจค้นและจับกุมจำเลยเสีย
          กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงขอฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวังในการชักชวนให้ลงทุนร่วมทำธุรกิจที่อ้างว่ามีผลตอบแทนสูง ทั้งนั้ หากมีข้อมูลหรือเบาะแสสามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงหลักสี่ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 โทร. 1202
          อนึ่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังเร่งติดตามดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่อีกหลายคดี ซึ่งคาดว่าจะทยอยแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับเพื่อนำผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

 

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ