ผลการดำเนินคดีเกี่ยวกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด

เผยแพร่: 14 ธ.ค. 2558 11:16 น. ปรับรุง: 14 ธ.ค. 2558 11:16 น. เปิดอ่าน 1746 ครั้ง  
 

 

ผลการดำเนินคดีเกี่ยวกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด

 

 

กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินคดีที่เกี่ยวกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด รวมทั้งหมด ๗ คดี คือ

               ๑.   คดีพิเศษที่ ๑๔๖/๒๕๕๖ (รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๖) กรณี นายพิษณุ ชีวะสิทธิ์ กับพวก ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด กับพวก ข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์

                     มูลค่าความเสียหาย จำนวน ๑๓,๓๓๔,๑๕๘,๙๗๕.๖๘ บาท   

                    ผลการดำเนินการ  คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้สรุปสำนวนมีความเห็นให้สั่งฟ้อง นายศุภชัย ศรีศุภอักษร นางสาวศรัณยา มานหมัด นายลภัส โสมคำ และนายกฤษฎา มีบุญมากในข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ และได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการแล้วเมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ต่อมาพนักงานอัยการมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมหลายประเด็น ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนฯ ได้สอบสวนเพิ่มเติมและทยอยส่งผลการสอบสวนให้พนักงานอัยการ ประเด็นสำคัญคือ รายละเอียดของผู้รับเช็คจำนวน ๗๘๗ ฉบับ ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จและจัดส่งให้พนักงานอัยการในวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘

               ๒.   คดีพิเศษที่ ๖๓/๒๕๕๗ (รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๗) กรณีที่
นายสมาน ครองเมือง กับพวก รวม ๒,๒๐๕ คน ซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และนายไพโรจน์ จำลองราษฎร์ ผู้รับมอบอำนาจจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด (ชุดปัจจุบัน) ได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน

                     มูลค่าความเสียหาย จำนวนประมาณ ๖,๘๖๖,๐๖๐,๕๘๗.๓๓ บาท

                 ผลการดำเนินการ  คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนมีความเห็นให้สั่งฟ้องนายศุภชัยฯ กับพวก รวม ๑๒ คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๑ และมาตรา ๓๔๓ และได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการแล้วเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๘

               ๓.   คดีพิเศษที่ ๖๔/๒๕๕๗ (รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๗) นางสาว
สุดาภรณ์ กองธรรม ผู้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด(ชุดชั่วคราว) ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ในข้อหายักยอกทรัพย์

                     มูลค่าความเสียหาย จำนวน ๒๗,๖๔๒,๐๐๐ บาท

                 ผลการดำเนินการ  คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนมีความเห็นให้สั่งฟ้องนายศุภชัยฯ ในข้อหายักยอกทรัพย์ และได้ส่งสำนวนการสอบสวน ให้พนักงานอัยการแล้ว โดยพนักงานอัยการได้สั่งฟ้องนายศุภชัยฯ ในข้อหายักยอกทรัพย์ผู้อื่นและจัดการทรัพย์สินผู้อื่นโดยทุจริต ในฐานะเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๓ และมาตรา ๓๕๔ ต่อศาลอาญา เลขคดีดำที่ อ.๑๗๓๙/๒๕๕๘ นัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๙ เวลา ๐๙.๐๐ น. โดยนายศุภชัยฯ ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางกรุงเทพ

                ๔.  คดีสืบสวนที่ ๑๑๐/๒๕๕๘ กรณีที่นายอริยะ เอี่ยมดิลกวงศ์ ผู้รับมอบอำนาจจากสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ ได้กล่าวหาให้ดำเนินคดีกับกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้นายศุภชัยฯ ประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น จำกัด สามารถยักยอกเงินของสหกรณ์ไปได้

                   ผลการดำเนินการ จากการสืบสวนพบว่า เป็นเรื่องที่นายทะเบียนสหกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงมีพฤติการณ์ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ เสียหาย เข้าข่ายเป็นความผิดที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้ส่งเรื่องให้สำนักงาน ป.ป.ช. พิจารณาดำเนินการต่อไปแล้วเมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘

               ๕.   คดีพิเศษที่ ๖๘/๒๕๕๘ (รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๘) กรณีที่พบว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ได้ทำการโอนเงินที่ยักยอกมาจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยสั่งจ่ายเช็คให้แก่นายสถาพร วัฒนาศิรินุกูล และต่อมานายสถาพรฯ ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปซื้อทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและสังหาริมทรัพย์ (รถยนต์ ,ปืน) ในนามตนเองและในนามของบริษัท เอสดับบลิวโฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด การกระทำของนายศุภชัยฯ และนายสถาพรฯ
เข้าข่ายเป็นความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน

                     มูลค่าความเสียหาย จำนวนประมาณ  ๒๕๐ ล้านบาท

                     ผลการดำเนินการ สอบพยานไปแล้วจำนวน ๑๙ ปาก คงเหลือประมาณ ๕ ปาก คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๘

               ๖.   คดีพิเศษที่ ๗๐/๒๕๕๘ (รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘) กรณีที่พบว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ได้นำเงินจำนวนหนึ่งซึ่งเชื่อว่าเป็นเงินที่ได้จากการยักยอกมาจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด ไปซื้อทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดินในช่วงระหว่างปี พ.ศ.๒๕๕๒ จำนวนหลายแปลง ในพื้นที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ในนามตนเองและได้ถือครองกรรมสิทธิ์เรื่อยมาต่อมาเมื่อมีการร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีพิเศษที่ ๑๔๖/๒๕๕๖ นายศุภชัยฯ ได้ขายที่ดิน จำนวน ๘ แปลง ให้กับ น.ส.อลิสา อัศวโภคิน และอีก ๑ แปลง ให้กับ นางวรรณา จิรกิตติ ซึ่งการกระทำของนายศุภชัยฯ เข้าข่ายเป็นความผิดฐานฟอกเงิน       

                     มูลค่าความเสียหาย จำนวนประมาณ ๓๐๐ ล้านบาท

                     ผลการดำเนินการ  สอบพยานไปแล้ว ๑๔ ปาก คงเหลือประมาณ ๕ ปาก คาดว่าสำนวนคดีพิเศษที่ ๗๐/๒๕๕๘ จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ 

               ๗.   คดีพิเศษที่ ๙๙/๒๕๕๘ (รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๘) กรณีที่พบว่า     นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ได้นำเงินจำนวน ๓๒๑.๔ ล้านบาท (สั่งจ่ายเป็นเช็ค ๑๐ ฉบับ) ซึ่งเป็นเงินที่ได้ มาจากการยักยอกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ไปซื้อหุ้นของบริษัท เอ็มโฮมเอสพีวี ๒ จำกัดซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฟอกเงิน

                     มูลค่าความเสียหาย จำนวนประมาณ ๓๒๐ ล้านบาท

                     ผลการดำเนินการ  อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายเดือนธันวาคม ๒๕๕๘

 

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ