ดีเอสไอ บุกจับขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

เผยแพร่: 21 ส.ค. 2560 17:23 น. ปรับรุง: 21 ส.ค. 2560 17:23 น. เปิดอ่าน 1468 ครั้ง  
 
       
 ดีเอสไอ บุกจับขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
 
 
 
            วันนี้ (วันอังคารที่ 21 สิงหาคม 2560) พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพันตำรวจตรี สุริยา  สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พันเอก พินิจ ตั้งสกุล  ผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ได้ร่วมกันแถลงข่าวการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในรอบ 1 เดือน
ที่ผ่านมา ปรากฏผลการตรวจค้นแหล่งจำหน่ายและโกดังเก็บสินค้าพบประเภทรองเท้าละเมิดเครื่องหมายการค้าโดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท  และจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย
           เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2560 เวลาประมาณ 14.00 น. ร้อยตำรวจเอก พลสัณห์ เทิดสงวน ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 1 ได้นำหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญาและเจ้าหน้าที่สำนักปฏิบัติการพิเศษ เข้าทำการตรวจค้นแหล่งจำหน่ายและโกดังเก็บสินค้าประเภทรองเท้าละเมิดเครื่องหมายการค้า โดยเชื่อว่าลักลอบนำเข้ามา
ในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงภาษีจำนวน 6 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ เขตสัมพันธวงศ์ จำนวน 4 จุด เขตราษฎร์บูรณะ จำนวน 1 จุด และอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จำนวน 1 จุด
           ผลการตรวจค้นพบรองเท้าเลียนเครื่องหมายการค้าและลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงภาษี อาทิเช่น ไนกี้ (NIKE) คอนเวอร์ส (CONVERSE) อดิดาส (ADIDAS) และยี่ห้ออื่น ๆ รวมประมาณ 160,000 คู่ มูลค่าของกลางประมาณ 20 ล้านบาท จึงได้ยึดเป็นของกลางและจับกุมนายฮงบิน หลิน สัญชาติจีน เจ้าของร้าน วีวี่ ชู และนายลิน ชาว (Mr. Chao Lin) สัญชาติจีน เจ้าของร้านไอโซส เป็นผู้ต้องหาดำเนินคดีฐานนำของซึ่งมีเครื่องหมายการค้าเลียนเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้แล้วเข้ามา
ในราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมาย พ.ศ. 2534 และพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 รวม 2 คดี โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะทำการติดตามขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการในการนำเข้าสินค้ารายอื่น ๆ ต่อไป
          อนึ่ง การจับกุมปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกรมสอบสวนคดีพิเศษที่มุ่งเน้นการปราบปรามในพื้นที่สีแดง และ Notorious Markets ที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูง โดยมีลักษณะเป็นแหล่งผลิต แหล่งเก็บแหล่งจำหน่าย ซึ่งผู้กระทำผิดเป็นตัวการรายใหญ่ เนื่องจากปัญหาการละเมิดดังกล่าวทำให้ประเทศไทยถูกสหรัฐอเมริกาประเมินสถานะ
การคุ้มครองการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และการค้าการลงทุนของประเทศเป็นอย่างมาก และรัฐบาลมีนโยบายเร่งรัดการดำเนินการป้องกันและปราบปรามเพื่อให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากบัญชีดังกล่าวโดยเร็ว
 
 

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ