DSI ลงนามใน MOU เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกา (ICE)

DSI ลงนามใน MOU เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ
กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกา (ICE)

             วันที่ 24 สิงหาคม 2560 ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ นายโทมัส โฮแมน (Thomas Homan) รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (US Immigration and Customs Enforcement - ICE) ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (ICE) กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา โดยมีพันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพันตำรวจโท ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของ ICE ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม 

              MOU ดังกล่าวสะท้อนถึงความสำเร็จจากการทำงานร่วมกันระหว่าง DSI และ ICE อย่างใกล้ชิด ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา อันนำไปสู่ความสำเร็จในภารกิจต่าง ๆ โดยล่าสุด คือ กรณีการติดตามบุคคล ตามหมายจับ รายนายวิรพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่หลบหนี ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจากความร่วมมือของ ICE ทำให้สามารถจับกุมบุคคลดังกล่าว และส่งตัว เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้สำเร็จ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา 

         MOU ระหว่าง DSI กับ ICE จะส่งเสริมการทำงานร่วมกันในมิติต่าง ๆ ได้แก่ การแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าว งานสืบสวนสอบสวนและการปฏิบัติการร่วม ตลอดจนความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาทักษะความชำนาญของบุคลากร โดยครอบคลุมอาชญากรรมประเภทต่าง ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสำคัญเร่งด่วน เช่น อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ การฉ้อโกง การฟอกเงิน การค้ามนุษย์ และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น

        การลงนามใน MOU ในครั้งนี้ นอกจากจะพัฒนาความร่วมมือที่มีอยู่ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปแล้ว ยังเป็นการรับรองอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรถึงเจตนารมณ์ของทั้งสองฝ่ายที่จะทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาศักยภาพในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ อันจะส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของหน่วยงานในการอำนวยความยุติธรรม แก่ประชาชนต่อไป ทั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อประโยชน์แก่องค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่หมายถึงประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวม

****************************************