กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับนิธิไวด์ไลฟ์จัสติสคอมมิชชั่น (Wildlife Justice Commission – WJC) จัดฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะสืบสวนคดีลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ
เผยแพร่: 9 มิ.ย. 2568 15:23 น. ปรับปรุง: 9 มิ.ย. 2568 15:23 น. เปิดอ่าน 98 ครั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับนิธิไวด์ไลฟ์จัสติสคอมมิชชั่น (Wildlife Justice Commission – WJC)
จัดฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะสืบสวนคดีลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอกวิษณุ ฉิมตระกูล เป็นประธานพิธีเปิดโครงการฝึกอบรม“พัฒนาศักยภาพและทักษะการสืบสวนคดีลักลอบค้าสัตว์ป่าที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 ถึง 13 มิถุนายน 2568 ณ สถาบันการสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับมูลนิธิไวด์ไลฟ์จัสติสคอมมิชชั่น (Wildlife Justice Commission – WJC) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงกำไร มีภารกิจสนับสนุนการกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรมที่แสวงหาประโยชน์จากการลักลอบค้าสัตว์ป่า พันธุ์ไม้ และทรัพยากรทางทะเลอย่างผิดกฎหมาย โดยวัตถุประสงค์โครงการเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความชำนาญ ให้แก่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และพัฒนาทักษะและขีดความสามารถในการสืบสวนแสวงหาพยานหลักฐานขยายผลดำเนินคดีกับกลุ่มองค์กรอาชญากรรมลักลอบค้าข้ามชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบัน ปัญหาการลักลอบค้าสัตว์ป่าเป็นหนึ่งในรูปแบบของอาชญากรรมข้ามชาติที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยมีมูลค่าการค้ามากกว่า 7 แสนล้านบาทต่อปี (20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีเครือข่ายที่เชื่อมโยงครอบคลุมกว่า 67 ประเทศทั่วโลก ความต้องการสัตว์ป่าและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ส่งผลให้เกิดการล่าสัตว์ในภูมิภาคเอเชียและแอฟริกาอย่างต่อเนื่อง และก่อให้เกิดความสูญเสียต่อความหลากหลายทางชีวภาพอย่างรุนแรง ทั้งนี้ อาชญากรรมลักลอบค้าสัตว์ป่ายังมีความเชื่อมโยงกับการกระทำผิดอื่น เช่น การฟอกเงินและการลักลอบขนของผิดกฎหมาย ทำให้การสืบสวนและปราบปรามต้องอาศัยเครื่องมือและวิธีการที่ทันสมัยและมีความชำนาญเฉพาะทาง
การฝึกอบรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณและวิทยากรจากมูลนิธิไวด์ไลฟ์จัสติสคอมมิชชั่น (WJC) อันถือเป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษและมูลนิธิไวด์ไลฟ์จัสติสคอมมิชชั่น (WJC) เพื่อยกระดับการบังคับใช้กฎหมายและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในระดับสากลต่อไป