ศรส. ขอให้ความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชนทุกคนที่จะไปเลือกตั้ง และการเลือกตั้งครั้งนี้จะนำไปสู่การปฏิรูปตามกฎหมาย

published: 1/2/2557 16:29:47 updated: 1/2/2557 16:29:47 1949 views   TH
 

 

ประเด็นแถลงข่าวของ ศรส. วันนี้  (1 กุมภาพันธ์ 2557)
 
​ที่ประชุม ศรส. วันนี้ มีมติที่สำคัญ ดังนี้
​ศรส. ขอให้ความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชนทุกคนที่จะไปเลือกตั้ง และการเลือกตั้งครั้งนี้จะนำไปสู่การปฏิรูปตามกฎหมาย ​ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้  เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ประชาชนชาวไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนต้องออกไปใช้สิทธิเลือกผู้แทนเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ  อันเป็นการรักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย   โดยในวันนี้ ศรส. ได้ประชุมกำหนดแผนการปฏิบัติเพื่อดูแลการจัดการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย  ซึ่ง ศรส. ได้จัดเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ประกอบด้วย  ข้าราชการ  ตำรวจ และทหาร ประจำทุกหน่วยเลือกตั้งและสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตในกรุงเทพมหานคร  เพื่อทำหน้าที่อำนวยความสะดวกและคุ้มครองป้องกันพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ไปใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัยอย่างดียิ่ง  นอกจากนี้ ศรส. ยังได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดผสมเคลื่อนที่เร็วประจำจุดสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ทั่วทั้ง กทม. และจังหวัดใกล้เคียง  เพื่อเข้าสมทบระงับเหตุตามสถานการณ์เท่าที่จำเป็นอีกด้วย  สำหรับต่างจังหวัดนั้น ศรส. ได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทัพภาค จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเข้าดูแลความเรียบร้อยทุกหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศเช่นกัน  
ศรส. จึงขอแจ้งให้พี่น้องประชาชนเกิดความมั่นใจว่าการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งของท่านในวันพรุ่งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสวัสดิภาพอย่างแน่นอน  อนึ่ง ในเขต กทม.  พี่น้องประชาชนสามารถติดต่อขอทราบข้อมูลการจราจรหรือสอบถามความสงบเรียบร้อยเพื่อความมั่นใจของทุกท่านได้ที่หมายเลข 1599 ได้ตลอดเวลาครับ ​การออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการร่วมกันรักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้ยังจะเป็นการนำไปสู่การปฏิรูปประเทศ  เพราะเมื่อประชาชนได้ไปเลือกตั้งแล้วก็จะทำให้รัฐบาลชุดนี้พ้นไปจากการปฏิบัติหน้าที่  แล้วได้รัฐบาลที่เป็นทางการเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน  ซึ่งจะทำให้การปฏิรูปประเทศเดินหน้าได้อย่างแท้จริงและเป็นไปตามกฎหมาย
 
​อนึ่ง  การที่ กปปส. ประกาศจะระดมคนออกมาชุมนุมในท้องถนนและกีดขวางทางจราจรโดยเรียกว่า การจัดปิคนิกทั่วกรุงเทพนั้น  เป็นเพียงข้ออ้าง  ซึ่งแท้จริงแล้วคือการขัดขวางการเลือกตั้งนั่นเอง  ศรส. ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน  อย่าได้ออกมาชุมนุม เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย  ทั้งกฎหมายเลือกตั้งและกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน  ประการสำคัญจะเป็นการล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของพี่น้องประชาชนด้วยกันกรณีการขัดขวางการเลือกตั้ง  จึงไม่ใช่เรื่องการเมืองกับการเมือง  แต่เป็นการขัดขวางสิทธิของประชาชนด้วยกัน
 
​ศรส. ขอแจ้งย้ำเตือนประชาชนว่า การขัดขวางการเลือกตั้งเป็นความผิดที่มีโทษจำคุก 1 ปี ถึง 5 ปี  และโทษปรับ 20,000 ถึง 100,000 บาท  รวมถึงโทษตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี  ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง  ดังตัวอย่างเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา  ศาลจังหวัดสมุทรสาครได้อนุมัติหมายจับดำเนินคดีกับผู้ไปขัดขวางการเลือกตั้งแล้วด้วย  ซึ่งจะมีการดำเนินคดีกับทุก ๆ ราย   ที่ไปขัดขวางการเลือกตั้งภายในกำหนดอายุความ  จึงขอร้องประชาชนอย่าได้ไปขัดขวางการเลือกตั้งตามคำชักชวนของ กปปส. เป็นอันขาด เพราะท่านจะมีความผิดติดตัวอย่างแน่นอน โดย ศรส.จะจัดเจ้าหน้าที่บันทึกภาพผู้กระทำผิดไว้ทั้งหมด  รวมทั้งขอให้พี่น้องประชาชนที่พบเห็นการขัดขวางการเลือกตั้งถ่ายภาพไว้แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอดเวลา  หรือที่ศูนย์รับแจ้งเหตุหมายเลข 1599 ด้วยสำหรับพี่น้องประชาชนท่านใดที่ประสงค์จะทำบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อนำไปใช้แสดงตนในวันเลือกตั้ง  ให้ไปดำเนินการที่จังหวัดหรือสำนักงานเขตในวันนี้และวันพรุ่งนี้ได้ด้วยครับ
 
​เนื่องจากเช้าวันนี้ มี กกต. บางคนคือ นายสมชัย  ศรีสุทธิยากร  ได้ให้สัมภาษณ์ว่าจะสั่งงดการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้  โดยอ้างเหตุต่าง ๆ นานา  ศรส.พิจารณาแล้วเห็นควรมีหนังสือด่วนแจ้ง กกต. ดังต่อไปนี้
​1. ศรส. ขอเรียกร้องให้ กกต. แก้ไขปัญหาบัตรเลือกตั้ง ส.ส. ประเภทบัญชีรายชื่อในเขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังติดค้างอยู่ ณ ศูนย์ไปรษณีย์บางแห่ง  เพราะการชุมนุมปิดล้อมของ กปปส.  โดยการจัดส่งบัตรเลือกตั้งชุดใหม่ส่งตรงไปยังจังหวัดที่จัดเลือกตั้ง  และหากเป็นการสุดวิสัยที่จะทำได้  กกต.ก็ต้องให้การเลือกตั้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  ในส่วนของการเลือกตั้ง ส.ส.เขต  ดำเนินการต่อไปได้  เพราะมีความพร้อมในทุก ๆ ด้านแล้ว  โดยเฉพาะเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
​2. ​การขัดขวางการแจกจ่ายบัตรเลือกตั้งในบางจังหวัดที่ปรากฏในขณะนี้  กกต.จะอาศัยเป็นเหตุสั่งยกเลิกไม่ให้มีการเลือกตั้งทั่วประเทศไม่ได้เป็นอันขาด  เพราะขณะนี้การจัดการเลือกตั้งในเขตจังหวัดต่าง ๆ กว่า 80 เปอร์เซ็นต์  มีความพร้อมครบถ้วนทุกประการแล้ว  หาก กกต.ยังจะสั่งยกเลิกการเลือกตั้ง   ทั่วประเทศต่อไป  ย่อมเป็นการกระทำที่ไม่มีกฎหมายรองรับ และเป็นการจงใจของ กกต. ที่จะไม่จัดการเลือกตั้ง  กกต.ต้องรับผิดชอบทั้งทางอาญาและทางแพ่ง  และถือเป็นการทำลายการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน