ดีเอสไอรับหนังสือจากทนาย “พระธัมมชโย” ขอเลื่อนนัดเข้าให้ปากคำ

ดีเอสไอรับหนังสือจากทนาย “พระธัมมชโย” ขอเลื่อนนัดเข้าให้ปากคำ

          เมื่อวันอังคารที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๗ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุวชีกุล ผู้อำนวยการส่วนตรวจ ๒ สำนักเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลตรวจสอบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับหนังสือขอเลื่อนให้ปากคำจาก นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หลังจาก ดีเอสไอออกหมายเรียกให้ชี้แจงกรณีรับเช็คเงินสดจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิต     ยูเนี่ยนคลองจั่น กว่า ๙๐๐ ล้านบาท

                    ทั้งนี้ พระธัมมชโย ให้เหตุผลว่ามีปัญหาด้านสุขภาพป่วยเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิต รวมทั้งยังไม่มีความพร้อมในเรื่องของเอกสารที่จะเข้าชี้แจงกับพนักงานสอบสวน จึงขอเลื่อนออกไป เป็นวันที่ ๒๖ มี.ค. ๒๕๕๘ เวลา ๑๐.๐๐ น. พร้อมระบุว่าที่ผ่านมาพระธัมมชโยยังไม่เคยเห็นเช็คเงินสดที่ นายศุภชัย บริจาค เนื่องจากฝ่ายการเงินจะเป็นผู้ดูแลเงินบริจาคทั้งหมด ส่วนพระธัมมชโยมีบัญชีส่วนตัว ซึ่งจะมีผู้รับมอบอำนาจในการดูแลการเบิกจ่าย และยืนยันว่าได้นำเงินที่ได้รับบริจาคมาทั้งหมดไปสร้างศาสนสถานภายในวัดและในสถานที่ต่างๆ ซึ่งแต่ละแห่งมีมูลค่าการก่อสร้างไม่ต่ำกว่า ๑,๐๐๐ ล้านบาท

                        ส่วนกรณี ดีเอสไอตรวจสอบพบว่าวัดพระธรรมกายรับเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น   ไปกว่า ๙๐๐ ล้านบาท นายสัมพันธ์ยืนยันว่าขณะนี้ตัวเลขยังไม่ตรงกับทางวัด ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าวัดได้รับเช็คเงินสดมาเพียง ๑๓ ฉบับ เป็นเงินประมาณ ๖๘๔ ล้านบาท โดยขณะนี้ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายมีการระดมทุนกันเพื่อรับเงินบริจาคช่วยเหลือสมาชิกของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเริ่มตั้งกองทุนมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทราบจำนวนเงินที่ชัดเจน

          พ.ต.ท.ปกรณ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะมีการสอบปากคำ บริษัทนิติบุคคล ที่รับเช็คเงินสดจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วันละ ๔ บริษัท รวมทั้งพระในวัดพระธรรมกายที่ได้รับเช็คไปด้วย แต่จะให้เลื่อนนัดได้เพียง ๑ ครั้ง เพราะอาจกระทบต่อการรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ และหากยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนก็จะนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณามาตรการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป