DSI จับกุมผู้ร่วมขบวนการแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ - จัดหาคนจดบริษัทปลอมกว่า 28 แห่ง หลอกโอนเงินค่าที่จอดเครื่องบินเจ็ทสนามบินดอนเมือง เหยื่อสูญ 3,000,000 บาท
published: 5/30/2025 5:07:08 PM updated: 5/30/2025 5:07:08 PM 127 views
วันนี้ (วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2568) เวลา 10.38 น. ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้จับกุม นายสมชาย (สงวนนามสกุล) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนด้วยการแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณหน้าอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าพนักงานได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และรวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับกุมและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งมอบตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ผู้ต้องหารับทราบและเข้าใจเป็นอย่างดี จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 118/2566 ของกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรณี แก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ สร้างเว็บไซต์หลอกหลวงให้ซื้อสินค้า/บริการที่ไม่มีอยู่จริงกว่า 2,000 เว็บ มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท โดยนายสมชายฯ เป็นผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้เป็นรายที่ 10 จากจำนวน 24 ราย มีหน้าที่จัดหาเอกสารหลักฐานของบุคคลอื่นนำมายื่นจดทะเบียนนิติบุคคล และเป็นผู้ดำเนินการจดทะเบียนนิติบุคคลให้กับแก็งสแกมเมอร์ จำนวน 28 บริษัท ซึ่งกลุ่มสแกมเมอร์ได้นำไปใช้ก่อเหตุ คือ บริษัท โชคดี โอเวอร์ซี จำกัด (CHOKDEE OVERSEA CO.,LTD.) โดยมีการส่งอีเมลปลอมไปหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินค่าเช่าที่จอดเครื่องบินเจ็ทในสนามบินดอนเมือง มายังบัญชีธนาคารของบริษัทฯ ความเสียหายเป็นเงินจำนวนประมาณ 3,000,000 บาท และบริษัท ดาวพา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (DAOPHA INTERNATIONAL CO.,LTD.) ที่ผู้เสียหายชาวต่างชาติถูกหลอกลวงให้โอนเงินมายังบัญชีธนาคารของบริษัทดังกล่าว เป็นจำนวนสูงถึง 4,500,000 บาท แต่ยังไม่พบการแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายแต่อย่างใด