DSI สนธิกำลังหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ทลายขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ที่สุดในประเทศ

published: 23/12/2559 15:58:05 updated: 23/12/2559 15:58:05 1335 views

ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเร่งรัดการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและลดความเหลื่อมล้ำของสังคมตลอดจนการปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และพันตำรวจเอก ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านอำนวยความยุติธรรม ได้สั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการปราบปรามเรื่องดังกล่าวให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน

ต่อมาคณะกรรมการคดีพิเศษได้มีมติในที่ประชุมครั้งที่ 2/2559 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2559 เห็นชอบให้กรณีขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 เป็นคดีพิเศษที่ 99/2559 ซึ่งกลุ่มขบวนการดังกล่าวมีลักษณะการกระทำความผิดโดยจัดตั้งบริษัทบังหน้ามีสำนักงานใหญ่อยู่ที่

จังหวัดปทุมธานีและสาขาทั่วประเทศมากกว่า 86 สาขามีเครือข่ายผู้กระทำความผิดมากกว่า 2,000ราย และมีประชาชนที่เป็นลูกหนี้กว่า 170,000 รายปรากฏเงินหมุนเวียนในระบบมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท

ในการนี้ พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายพันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะผู้กำกับดูแลศูนย์ปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมพิเศษ พร้อมด้วย พันตำรวจโท ชลภัทร์ ปานสกุล รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมพิเศษ ประสานงานสนธิกำลังกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, 3, 4, 5, 9 และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นเป้าหมายสถานที่และการเข้าจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 26 จุด ทั้งในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดสงขลาและจังหวัดขอนแก่น สามารถยึดทรัพย์ที่ได้มาหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ได้แก่ รถยนต์ จำนวน 26 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 86 คันตู้นิรภัย จำนวน 14 ตู้ ธนบัตรไทยและเงินสกุลต่างประเทศ คอมพิวเตอร์อุปกรณ์การสื่อสารและของมีค่าจำนวนหลายรายการ เช่น ทองรูปพรรณสร้อยคอ แหวนเพชร และพระเครื่องนอกจากนี้ได้ดำเนินการอายัดบัญชีเงินฝากจำนวน 28 เล่ม อาวุธปืนจำนวน 4 กระบอกและลูกกระสุนปืน จำนวน 309 นัดโฉนดที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 5 แปลง รวมทั้งสิ้นมูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท

*********************************************************

อย่างไรก็ตามขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ในระหว่างดำเนินการขยายผลเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์ผู้กระทำความผิดกับทุกรายที่เกี่ยวข้องต่อไป