DSI รวบหญิงชาวม้งบังคับค้าประเวณีเด็กและชายชาวกัมพูชาค้ามนุษย์

published: 19/6/2561 17:40:35 updated: 19/6/2561 17:40:35 2592 views   TH
 

DSI รวบหญิงชาวม้งบังคับค้าประเวณีเด็กและชายชาวกัมพูชาค้ามนุษย์

 

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลาประมาณ 21.30 น. พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ มอบหมายให้กองคดีการค้ามนุษย์ เร่งรัดปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีค้ามนุษย์ โดยสั่งการให้ดำเนินการจับกุมตัว นางสาวเด๊อ แซ่วื่อ หรือนางเจ๊ แซ่ย่าง หรือ Maiv Pai Ntshua Nplaim ผู้ต้องหา อายุ 37 ปี เชื้อชาติม้ง ไม่มีสัญชาติ อยู่บ้านเลขที่ 176 หมู่ที่ 7 ตำบลนาโบสถ์ อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1089/2561 ลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2561 พร้อมด้วยของกลางโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ออปโป รุ่น อาร์ นาย เอส (OPPO รุ่น R9S) สีแดงดำ จำนวน 1 เครื่อง ในการกระทำความผิดฐาน  

1. ค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบแปดปี 

2. เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี และเป็นการกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใดๆ หน่วงเหนี่ยว กักขัง กระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เพื่อข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการค้าประเวณี เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น 

3. เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไป เพื่อการอนาจารซึ่งหญิงอายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี 

4. ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ของผู้ถูกข่มขืนใจ 

5. หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น โดยปราศจากเหตุอันสมควร 

6. พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วย ทั้งนี้ เพื่อการหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร

7. นำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร หรือกระทำการอันเป็นการอุปการะช่วยเหลือคนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรไทย  

 

การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับหนังสือจากกรมการปกครอง เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2560 ให้สืบสวนข้อเท็จจริง กรณีองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ (NVADER) แจ้งเบาะแสผ่านศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย กรณีหญิงสาวชาวเขาเผ่าม้งมีพฤติการณ์บังคับ เป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจารและสนองความใคร่เด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี มีพฤติการณ์แห่งคดี ดังนี้

 

เมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 2560 ขณะที่ นางสาวเอ (นามสมมติ) หญิงชาวม้ง อายุ 16 ปีเศษ ผู้เสียหาย ทำงานอยู่ที่หมู่บ้านสีโพนไซร้ เมืองแปลก แขวงเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ผู้ต้องหาได้ชักชวนและหลอกลวงผู้เสียหายให้เดินทางมาทำงานขายไก่ทอดในประเทศไทย ด้วยการนั่งเรือข้ามฝากจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 จากนั้นพามาพักอาศัยอยู่ที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย โดยมีการหน่วงเหนี่ยว กักขัง ผู้เสียหาย และได้พามาที่ร้านจันทร์ยิ้ม คาราโอเกะ และบังคับให้ขายบริการทางเพศให้กับลูกค้า และประมาณปลายเดือน กรกฎาคม 2560 ผู้เสียหายได้หลบหนีออกมาจากบ้านพัก และได้ติดต่อกับมารดาซึ่งอยู่ต่างประเทศ ผ่านทาง Facebook เพื่อขอความช่วยเหลือและได้รับความช่วยเหลือในเวลาต่อมา โดยเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่ขององค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ (NVADER) เข้ามาช่วยเหลือในการสอบถามข้อมูล เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงราย และทีมสหวิชาชีพได้ทำการสัมภาษณ์เบื้องต้นเพื่อคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์แล้ว สรุปความเห็นว่า เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และส่งเรื่องดังกล่าวให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับไว้เป็นคดีพิเศษ และอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนคนหนึ่งคนใดในกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำการสอบสวน โดยให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือผู้รักษาการแทน เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ และมอบหมายให้พนักงานอัยการคนหนึ่งคนใดในสำนักงานอัยการจังหวัดเชียงรายเข้าร่วมสอบสวนกับพนักงานสอบสวน โดยเหตุเกิดที่ หมู่บ้านสีโพนไซร้ เมืองแปลก แขวงเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิบไตยประชาชนลาว ต่อเนื่อง บ้านเช่าและห้องเช่า, ร้านจันทร์ยิ้มคาราโอเกะ, โรงแรมเชียงของ พาราไดซ์ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย ประมาณเดือนมิถุนายน 2560 ถึงปลายเดือน กรกฎาคม 2560 ต่อเนื่องกัน 

 

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการร่วมสวบสวนได้ทำการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานและได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ศาลอาญาได้อนุญาตออกหมายจับ ตามหมายศาลอาญาที่ 1089/2561 ลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2561  

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมดังกล่าวข้างต้น ได้สืบทราบมาว่า ผู้ต้องหาอยู่ที่บริเวณตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ขององค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ (NVADER) เพื่อให้ติดตามและสืบทราบที่อยู่ที่แน่ชัดของผู้ต้องหา จนทราบสถานที่ที่ผู้ต้องหามาปรากฏตัว จึงได้แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เดินทางมาทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณหน้าร้านอาหารวัวหัน 2 เลขที่ 315 ถนนเชียงของ – เทิง ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย และได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา มาทำการสอบสวนปากคำที่สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงรายร่วมกับพนักงานอัยการร่วมสอบสวน และควบคุมตัวมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลอาญาในวันที่ 20 มิถุนายน 2561 

 

พร้อมกันนี้ พันตำรวจตรี อาริชย์ ทัศน์พันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนคดีการค้ามนุษย์ 3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ส่วนคดีการค้ามนุษย์ 3 และศูนย์สืบสวนสะกดรอยยังได้ดำเนินการเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 12/2561 ตามหมายจับศาลอาญารายนายวันนา สาม สัญชาติกัมพูชา ในข้อหาค้ามนุษย์ฯ พร้อมทั้งตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง