DSI จับกุมขบวนการแชร์ล็อตเตอรี่ ตุ๋นเงินกว่า ๖๗๐ ล้านบาท

published: 30/1/2558 15:45:54 updated: 30/1/2558 15:45:54 1422 views   TH
 


DSI จับกุมขบวนการแชร์ล็อตเตอรี่ ตุ๋นเงินกว่า ๖๗๐ ล้านบาท

 

 

 


         ในวันนี้ (วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558) เวลา ๑๐.๓๐ น. นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน กรณีแชร์ล็อตเตอรี่ในจังหวัดตาก ลำพูน และเชียงใหม่ ซึ่งหลอกลวงให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวร่วมลงทุน สร้างความเสียหายประมาณ ๖๗๐ ล้านบาท ณ ห้องประชุมกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น ๑ อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้สำนักคดีอาญาพิเศษ ๓ สนธิกำลังร่วมกับ สำนักคดีอาญาพิเศษ ๑ สำนักคดีอาญาพิเศษ ๒ ศูนย์สืบสวนสะกดรอย และศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาค ๕ จับกุมผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนจากการสอบสวนพบว่า นางวารุณี ดวงตาสิทธิ์ ได้ร่วมกับนายมังกร พันธุ์วิไล,นางสาวสมร คำยองหรือพันธุ์วิไล,นายปรีดา ตรองใจ,นางสมพร ตรองใจ,นายเกรียงยศ  ตรองใจ,นางเพ็ญศรี  ฟุ่มเฟือย,นายพันธ์ทวี ปานแก้ว,นางสุภาพร ปานแก้ว,นางสมพร ณ คำ และนางพัทธมน แสงทอง หรือจินากาศ ซึ่งเป็นหัวหน้าสาย กระทำการโฆษณาและชักชวนประชาชนทั่วไปในเขตพื้นที่จังหวัดลำพูน จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดตากและจังหวัดใกล้เคียง มาร่วมลงทุนซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาทุนเพื่อไปจำหน่ายต่อ ซึ่งจะได้รับผลกำไรเป็นจำนวนมากมีการกำหนดแผนลงทุนเพื่อให้ประชาชนทั่วไปนำเงินมาร่วมลงทุน โดยทำเป็นหนังสือสัญญาซื้อขายร่วมทุน ซึ่งมีแผนการลงทุนดังนี้


๑. ลงทุนเป็นหุ้น ราคาหุ้นละ ๓๘,๐๐๐ บาท อ้างว่าเป็นการลงทุนในสลากกินแบ่ง จำนวน ๕ เล่ม โดยเสนอผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนเป็นรายงวด ซึ่งเป็นผลกำไรที่ได้จากการขายสลากเป็นรายงวด ในทุกงวดที่มีการออกรางวัล งวดละ ๑,๐๐๐ บาทต่อ ๑ หุ้น  ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะมีหัวหน้าสาย เช่น นายปรีดาฯ นายเกรียงยศฯ และนางเพ็ญศรีฯ จะโฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนโดยเสนอผลตอบแทนให้ผู้ลงทุนงวดละ ๘๐๐ บาทต่อหุ้น ทำให้หัวหน้าสายได้รับเงินตอบแทนส่วนต่างจาก ๑,๐๐๐ บาท คือ ๒๐๐ บาทต่อหุ้นจากนางวารุณีฯ


๒. ลงทุนโดยไม่กำหนดจำนวนเงินลงทุน โดยเสนอผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนอ้างว่าเป็นผลกำไรที่ได้จากการขายสลากกินแบ่งให้แก่ผู้ลงทุนเป็นรายงวด ทุกงวดที่มีการออกรางวัลในอัตราร้อยละ ๒.๕ ของเงินลงทุนต่องวดแผนการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตลอดไปจนกว่าจะมีการยกเลิกสัญญา (ถอนหุ้น) อันเป็นการเสนอจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราร้อยละ ๔๖.๓๒ ถึง ๕๙.๕๐ ต่อไป ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมายที่พึงจะจ่ายได้ในการชักชวนลงทุน หัวหน้าสายจะพูดจาหว่านล้อม โน้มน้าวใจ สร้างความเชื่อมั่น และยืนยันเกี่ยวกับผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับเพื่อให้บุคคลหลงเชื่อร่วมลงทุนซื้อขายสลากกินแบ่งดังกล่าว อีกทั้งยังแนะนำสถานที่เปลี่ยนสินทรัพย์เป็นทุนและวิธีการต่าง ๆ เพื่อให้หาเงินนำมาร่วมลงทุน ซึ่งพฤติการณ์ของหัวหน้าสายที่ได้กระทำต่อบรรดาผู้เสียหายนั้น มีวิธีการแตกต่างกันหลายวิธี เช่น


- หัวหน้าสายที่ทำการชักชวนผู้ลงทุนจะให้ผู้ลงทุนชำระเงินโดยวิธีการโอนเงินหรือนำฝากเงินเข้าบัญชีของนางวารุณีฯ โดยตรง และนำเอกสารหลักฐานการโอนเงินหรือนำฝากเงินไปที่บ้านนางวารุณีฯ พร้อมกับหัวหน้าสาย เพื่อทำสัญญาต่อไป
- หัวหน้าสายที่ทำการชักชวนผู้ลงทุนจะเป็นผู้พาผู้ลงทุนไปที่บ้านของนางวารุณีฯ โดยผู้ลงทุนจะมอบเงินสดตามจำนวนที่ลงทุนให้แก่นางวารุณีฯ โดยตรง และทำสัญญาต่อไป
- หัวหน้าสายที่ทำการชักชวนผู้ลงทุนจะให้ผู้ลงทุนชำระเงินโดยวิธีการโอนเงินหรือนำฝากเงินเข้าบัญชีของนางวารุณีฯ โดยตรง และเป็นผู้เก็บเอกสารหลักฐานการโอนเงินหรือนำฝากเงินไว้ และนำสัญญามาให้แก่ผู้ลงทุนในภายหลัง
- หัวหน้าสายที่ทำการชักชวนผู้ลงทุนจะให้ผู้ลงทุนชำระเงินโดยวิธีการโอนเงินหรือนำฝากเงินเข้าบัญชีของหัวหน้าสายหรือผู้อื่น และนำเอกสารหลักฐานการโอนหรือนำฝากเงินมาให้แก่หัวหน้าสาย หรือให้ผู้ลงทุนนำเงินสดมามอบให้กับหัวหน้าสายหรือผู้อื่น และไปทำสัญญากับนางวารุณีฯ โดยนัดให้ผู้ลงทุนมารับสัญญาในภายหลัง
- หัวหน้าสายที่ทำการชักชวนผู้ลงทุนจะให้ผู้ลงทุนชำระเงินโดยวิธีการโอนเงินหรือนำฝากเงินเข้าบัญชีของหัวหน้าสายหรือผู้อื่น และนำเอกสารหลักฐานการโอนหรือนำฝากเงินมาให้แก่หัวหน้าสาย หรือให้ผู้ลงทุนนำเงินสดมามอบให้กับหัวหน้าสายหรือผู้อื่น และหัวหน้าสายจะทำสัญญาให้กับผู้ลงทุนในทันทีที่บ้านของหัวหน้าสายหรือ ณ สถานที่ใด ๆ ที่นัดหมายกัน โดยหัวหน้าสายรายนั้น ๆ จะมีเอกสารแบบฟอร์มสัญญาซึ่งยังไม่ได้กรอกรายละเอียด แต่มีลายมือชื่อของนางวารุณีฯ ลงไว้ในสัญญาแล้ว และมีสำเนาเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาบัตรประจำตัวคนพิการของนางวารุณีฯ ที่มีการรับรองความถูกต้องโดยหัวหน้าสายจะเป็นผู้กรอกรายละเอียดในสัญญาตามจำนวนที่ผู้ลงทุนได้ลงทุนจำนวน ๒ ฉบับถูกต้องตรงกัน มอบไว้ให้ผู้ลงทุนหนึ่งฉบับพร้อมกับเอกสารของนางวารุณีฯ และเก็บอีกฉบับหนึ่งไว้เพื่อมอบให้นางวารุณีฯ ต่อไปตามทางการสอบสวนพบว่า นางวารุณีฯ ได้รับสิทธิ (โควตา)  ในการซื้อสลากกินแบ่งไปจำหน่ายเพียง ๖๕ เล่ม มีค่าใช้จ่ายในการซื้อสลากกินแบ่ง จำนวน ๒๓๘,๒๐๐ บาทต่องวดเท่านั้น ดังนั้น นางวารุณีฯ จึงควรระดมทุนได้มากที่สุดเป็นเงิน ๒๓๘,๒๐๐ บาท หรือคิดเป็นหุ้นจำนวนไม่เกิน ๗ หุ้นเท่านั้น  แต่จากการสอบสวนผู้เสียหายจำนวน ๖๐๖ ราย ปรากฏว่า นางวารุณีฯ ได้ระดมทุนเป็นจำนวนหุ้นมากกว่า ๒๐,๐๐๐ หุ้น เป็นเงินมากกว่า ๗๖๐ ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงกว่าจำนวนเงินที่ใช้ซื้อสลากกินแบ่งตามสิทธิที่นางวารุณีฯ ได้รับ ดังนี้ พฤติการณ์ของนางวารุณีฯ กับพวก จึงเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายคณะพนักงานสอบสวนจึงได้ขอหมายจับหัวหน้าสาย รวม ๑๐ ราย และสามารถดำเนินการติดตามจับกุมหัวหน้าสายทั้ง ๑๐ รายได้ ซึ่งจะได้ทำการสอบสวนโดยเร็วต่อไป

 

 

 

Lasted Post

Related Post