DSI จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายแชร์ลอตเตอร์รี่ “บ้านรวยโชค” เสียหายกว่า 622 ล้านบาท
published: 10/29/2025 4:30:19 PM updated: 10/29/2025 4:34:51 PM 99 viewsDSI จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายแชร์ลอตเตอร์รี่ “บ้านรวยโชค” เสียหายกว่า 622 ล้านบาท
วานนี้ (วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568) เวลา 16.00 น. ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้จับกุม นายกฤตภพ (สงวนนามสกุล) ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน” โดยเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณหน้าบ้านในตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และรวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ให้ผู้ต้องหาได้รับทราบแล้ว จากนั้นได้ควบคุมตัวส่งมอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 49/2564 ของกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ สื่บเนื่องมาจากระหว่างเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม 2564 ผู้ต้องหากับพวกได้ร่วมกันประกาศขายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว และเพจชื่อ “บ้านรวยโชค” โดยโพสต์ภาพสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนมากเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ พร้อมแจ้งช่องทางติดต่อผ่านไลน์ไอดี @baanruaychok และบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ Ruaychok Ruaychok Jinn Prasarnpong และ BJ Kritpob Ruaychok เมื่อมีผู้สนใจติดต่อมา กลุ่มผู้ต้องหาจะอ้างว่ามี โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลจากยี่ปั๊วรายใหญ่ และชักชวนให้ซื้อสลากฯ หรือร่วมลงทุนในลักษณะ “ฝากขายสลากฯ” โดยผู้ลงทุนไม่ต้องรับสลากไปขายเอง แต่จะได้รับผลตอบแทนเป็นส่วนต่างราคาขาย ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยธนาคารทั่วไป ต่อมาในงวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2564 และ 1 มิถุนายน 2564 กลุ่มผู้ต้องหาไม่มีสลากกินแบ่งรัฐบาลให้แก่ผู้เสียหายตามที่ตกลง และไม่จ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ร่วมลงทุน ทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการหลอกลวงประชาชนโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดความจริง เพื่อให้เชื่อว่ามีโควตาสลากจริง ทั้งที่ในความเป็นจริงกลุ่มผู้ต้องหาไม่มีสลากตามจำนวนที่กล่าวอ้าง และมีเจตนาหลอกลวงเพื่อให้ผู้อื่นนำเงินมาลงทุนตั้งแต่ต้น มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 622,267,225 บาท
ทั้งนี้ การดำเนินการในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พันตำรวจตรี จตุพล บงกชมาศ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงการบังคับบัญชา จัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป







