DSI แจ้งผลการดำเนินการสอบสวนกรณีอาคารสำนักงาน สตง.ถล่มฯ เพิ่มเติม

published: 6/5/2025 10:50:56 AM updated: 6/5/2025 10:50:56 AM 210 views   TH
 

DSI แจ้งผลการดำเนินการสอบสวนกรณีอาคารสำนักงาน สตง.ถล่มฯ เพิ่มเติม


 

                  วันพุธที่ 4 มิถุนายน2568) เวลา 10.00 น. ณ อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ/โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 กรณีการสอบสวนดำเนินคดีความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (นอมินี) ของกิจการร่วมค้าที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เกิดเหตุถล่มหลังจากมีเหตุแผ่นดินไหวฯได้ชี้แจงการดำเนินการสอบสวนในกรณีดังกล่าวเพิ่มเติม โดยที่มีการเผยแพร่ข่าวสาร “DSI ส่งสำนวนกรณีฮั้วฯ ตึก สตง. ให้ ป.ป.ช.” นั้น

                  สืบเนื่องจากการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษสรุปผลการดำเนินการสอบสวนคดีที่ 32/2568 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีความเห็นทางคดีเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (นอมินี) ทั้งหมด 5 ราย ต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และดำเนินการส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการแล้ว และต่อมาที่ประชุมได้ดำเนินการแยกสำนวนการสอบสวนเป็น 2 สำนวนได้แก่ สำนวนแรก เป็นการดำเนินคดีการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (นอมินี) ซึ่งต่อเนื่องหรือเกี่ยวพันกัน และสำนวนที่สองเป็นการดำเนินการสอบสวนความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (คดีฮั้วประมูลฯ) โดยมีการแยกเลขคดีเป็นคดีพิเศษที่ 58/2568 คดีดังกล่าวคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสอบสวนพบว่ามีพฤติการณ์ และหลักฐานเกี่ยวกับ การดำเนินการควบคุมงานของบริษัท PKW ที่ปรากฏว่าในส่วนของบุคลากรพบมีการปลอมลายมือชื่อและอ้างชื่อบุคคลอื่นซึ่งไม่เป็นไปตาม TOR มาดำเนินการเสนอราคาเพื่อให้ได้รับการคัดเลือก ซึ่งคุณสมบัติของบุคลากรตาม TOR นั้นหมายถึง บุคลากรที่ผู้ยื่นข้อเสนอได้นำมาเสนอต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจะต้องเป็นบุคคลที่มีคุณวุฒิประสบการณ์อันจะสามารถควบคุมงานได้จริงตลอดจนการทำงานได้เสร็จสิ้นตามวัตถุประสงค์การที่ผู้ต้องหากับพวกได้ใช้กลอุบายหลอกลวงนำชื่อของบุคคลอื่นโดยที่เต็มใจหรือไม่เต็มใจหรือไม่มีการเข้าร่วมงานจริงภายหลังที่ได้รับงานซึ่งเป็นเจตนาที่เห็นได้ชัดว่ามิได้มีความสุจริตในการจะเข้าเสนอราคากับหน่วยงานของรัฐโดยร่วมกันใช้กลอุบายหลอกลวงเพื่อหวังประโยชน์อันเป็นเงินได้จากการรับงานโดยไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ จึงมีการกล่าวหาดำเนินคดีกับบริษัท PKW รวมแล้ว 6 คน ตามมาตรา 4 และมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ประกอบกับมีบุคคล (ปกปิดนาม) จำนวน 2 รายกล่าวหาเจ้าพนักงานของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แบ่งได้ทั้งหมด 3 กลุ่ม ดังนี้ 1.กลุ่มผู้บริหารองค์กรอิสระ 2. กลุ่มคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการจ้างออกแบบ จ้างก่อสร้างและจ้างควบคุมงาน ทั้งหมด 10 คณะ และ 3. กลุ่มคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นการกล่าวหาเจ้าพนักงานของรัฐกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จึงอยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะไต่สวนและวินิจฉัย ตามมาตรา 28 ประกอบมาตรา 61 และมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการส่งสำนวนดังกล่าว ไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเร็ว ต่อไป

Documents related

Lasted Post

Related Post